โรคความดันโลหิตสูง...ภัยเสี่ยงที่ควรเลี่ยงในผู้สูงอายุในช่วงสูงวัย ร่างกายจะเกิดการเปลี่ยนแปลงตามธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นความยืดหยุ่นของหลอดเลือดที่ลดลง หรือการทำงานของอวัยวะต่างๆ ที่เสื่อมสภาพลง ซึ่งล้วนเป็นปัจจัยที่ทำให้ผู้สูงอายุมีความเสี่ยงสูงที่จะเป็นโรคความดันโลหิตสูง และหากไม่ได้รับการควบคุมอย่างเหมาะสม โรคนี้อาจนำไปสู่ภัยร้ายที่อันตรายถึงชีวิตได้
ทำไมความดันโลหิตสูงถึงเป็นภัยร้ายในผู้สูงอายุ?
โรคความดันโลหิตสูงเป็น "ภัยเงียบ" ที่มักจะไม่มีอาการในระยะแรก แต่จะค่อยๆ ทำลายอวัยวะภายในอย่างช้าๆ ทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงได้ในระยะยาว เช่น
โรคหลอดเลือดสมองตีบหรือแตก (Stroke): ความดันโลหิตที่สูงจะทำให้หลอดเลือดในสมองแตกหรืออุดตันได้ง่าย
โรคหัวใจ: หัวใจต้องทำงานหนักขึ้นในการสูบฉีดเลือด ทำให้กล้ามเนื้อหัวใจหนาตัวขึ้นและเสี่ยงต่อภาวะหัวใจวาย
โรคไตวายเรื้อรัง: ความดันโลหิตที่สูงจะทำลายหลอดเลือดในไต ทำให้ไตเสื่อมสภาพลง
ภาวะสมองเสื่อม: การไหลเวียนของเลือดในสมองไม่ดี ส่งผลให้ความจำและการทำงานของสมองลดลง
การป้องกันและดูแลตัวเอง
สำหรับผู้สูงอายุ การป้องกันและควบคุมความดันโลหิตสูงสามารถทำได้ง่ายๆ โดยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน ดังนี้
ควบคุมอาหาร: ลดการทานอาหารรสจัดและเค็มจัด และเพิ่มการทานผักผลไม้ที่มีโพแทสเซียมสูง เช่น กล้วย, ผักใบเขียว
ออกกำลังกายสม่ำเสมอ: ควรเลือกการออกกำลังกายเบาๆ เช่น การเดินเร็ว หรือการยืดเหยียด
พักผ่อนให้เพียงพอ: การนอนหลับพักผ่อนอย่างเต็มที่จะช่วยควบคุมความดันโลหิตได้
รับประทานยาตามแพทย์สั่ง: หากแพทย์วินิจฉัยว่าเป็นโรคความดันโลหิตสูงแล้ว ควรรับประทานยาอย่างสม่ำเสมอและห้ามหยุดยาเองโดยเด็ดขาด
ตรวจวัดความดันโลหิตเป็นประจำ: ควรมีเครื่องวัดความดันโลหิตไว้ที่บ้าน เพื่อตรวจวัดความดันโลหิตอย่างสม่ำเสมอ
การดูแลสุขภาพอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้ผู้สูงอายุมีคุณภาพชีวิตที่ดีและห่างไกลจากภาวะแทรกซ้อนจากโรคความดันโลหิตสูงได้ค่ะ