แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - siritidaphon

หน้า: [1] 2 3 ... 38
1
จัดฟันบางนา: จัดฟันแบบใส เทรนด์ใหม่ของคนยิ้มสวย !

จัดฟันแบบใส เทรนด์ของคนฟันสวย หลายคนคงมีปัญหาฟันเรียงตัวไม่สวยงาม บางคนมีปัญหาฟันซ้อนเก ฟันห่าง ซึ่งถือว่าปัญหาฟันก็ส่งผลต่อความมั่นใจในแต่ละวันได้เหมือนกัน เวลาที่เราต้องพบปะพูดคุยกับผู้คน เกิดความไม่มั่นใจ บางครั้งก็ทำให้เสียบุคลิกภาพได้เลย ซึ่งในเรื่องของปัญหาสุขภาพฟันนั้น เราสามารถแก้ไขได้ด้วยวิธีการต่างๆ ซึ่งในปัจจุบัน นวัตกรรมทางการแพทย์มีความก้าวหน้าไปมาก มีการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาช่วยในการรักษาและแก้ไขปัญหาฟัน ทำให้ผู้ที่มีปัญหาฟันกลับมามีรอยยิ้มที่มั่นใจและสวยงามได้อีกครั้ง


ซึ่งถือว่าการจัดฟัน เป็นอีกวิธีการรักษาที่ได้รับความนิยมมาก ในการแก้ไขปัญหาฟัน และการจัดฟันก็มีอยู่ด้วยกันหลายรูปแบบ ซึ่งแต่ละแบบก็ต้องขึ้นอยู่กับปัญหาสภาพฟันของแต่ละคน แต่การจัดฟันแบบใสนั้น ถือว่าได้รับความนิยมมาก เนื่องจากการจัดฟันแบบใสนี้ ทำให้รู้สึกมั่นใจกว่าการจัดฟันในรูปแบบอื่น เพราะว่าการจัดฟันแบบใส มีเครื่องมือที่สามารถถอดออกได้เวลารับประทานอาหารและเวลาที่ต้องทำความสะอาดช่องปาก ซึ่งจะส่งผลให้ผู้เข้ารับการรักษามีสุขภาพช่องปากที่ดีขึ้น เนื่องจากได้ทำความสะอาดช่องปากได้อย่างเต็มที่ โดยที่ไม่ต้องกังวลในเรื่องของเครื่องมือว่าจะทำให้หลุดนั่นเอง

สำหรับในปัจจุบันนี้วัยรุ่น หรือเหล่าดารานักแสดงมักนิยมเข้ารับการจัดฟันแบบใส เนื่องจากมีเครื่องมือจัดฟันที่ใส เวลาที่ใส่เครื่องมือแล้วทำให้มองแทบไม่ออกเลยว่ากำลังใส่เครื่องมืออยู่ ทำให้ฟันเรียงตัวสวยดูเป็นธรรมชาติ และเวลาใส่เครื่องมือก็ไม่มีผลต่อการพูดคุยอีกด้วย บางรายที่เข้ารับการจัดฟันแบบทั่วไปที่ใส่เหล็กจัดฟัน ทำให้รู้สึกไม่สบาย และเวลาพูดก็ส่งผลให้พูดไม่ชัด ซึ่งจะทำให้เสียบุคลิกภาพมาก ดังนั้นจึงไม่แปลกที่การจัดฟันแบบใส จึงได้รับความนิยม เรียกว่าเป็นเทรนด์ใหม่เลยก็ว่าได้ เนื่องด้วยในปัจจุบันวัยรุ่นและคนในสมัยนี้ หันมาใส่ใจในเรื่องของสุขภาพช่องปากและฟันกันมากขึ้น เพราะเวลาที่เข้าสังคมทำให้เกิดความมั่นใจ ทั้งยังช่วยให้มีรอยยิ้มที่สวยงาม มีฟันเรียงตัวสวยเป็นธรรมชาติ นอกจากนี้เหล่าดารานักแสดงยังนิยมเข้ารับการจัดฟันแบบใส เพราะการจัดฟันในรูปแบบนี้ เวลาใส่เครื่องมือทำให้มองแทบไม่ออกเลยว่ากำลังใส่เครื่องมือ


ซึ่งจะส่งผลต่อการงาน ที่ต้องส่งเสริมภาพลักษณ์ และเพื่อบุคลิกภาพที่ดีนั่นเอง แม้แต่อาชีพที่ต้องใช้ภาพลักษณ์ในการทำงาน นอกจากดารานักแสดงแล้ว ก็ยังมีพิธีกร หรือผู้ประกาศข่าว ทั้งยังช่วยให้การพูดคุย ชัดเจนยิ่งขึ้น ไม่มีผลต่อการพูดคุยหรือเข้าสังคมนั่นเอง จุดเด่นอีกข้อหนึ่ง สำหรับการจัดฟันแบบใส ที่ทำให้ได้รับความนิยมคือ สามารถถอดเครื่องมือการจัดฟันได้ เวลารับประทานอาหารหรือดื่มเครื่องดื่ม รวมไปถึงการทำความสะอาดฟัน ซึ่งนี่เป็นสาเหตุผู้ที่เข้ารับการจัดฟันแบบใส จึงสามารถรับประทานอาหารได้อย่างหลากหลาย โดยไม่ต้องกังวลว่าเครื่องมือจะหลุดขณะรับประทานอาหาร และในการแปรงฟันก็ต้องถอดเครื่องมือออก จึงทำให้ผู้เข้ารับการรักษามีสุขภาพช่องปากและฟันที่ดีขึ้น เนื่องจากช่องปากได้รับการดูแลและทำความสะอาดอย่างเต็มที่

แต่อย่างไรก็ตามการจัดฟันแบบใส ถึงแม้ว่าจะสามารถถอดเครื่องมือการจัดฟันได้ แต่ผู้เข้ารับการรักาาจะต้องมีวินัยในเรื่องของการใส่เครื่องมือ เพื่อผลการรักษาที่ดี หากผู้เข้ารับการรักษาเผลอลืมใส่เครื่องมือบ่อยๆ อาจจะส่งผลเสียต่อการจัดฟันได้ รวมไปถึงการแก้ไขปัญหาฟันก็จะล้มเหลว เป็นที่ทราบกันดีว่้าการเข้ารับการจัดฟันแบบใส แม้จะค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง

แต่ระยะเวลาในการจัดฟันแบบใสเร็วขึ้น 30% จากการจัดฟันแบบทั่วไปที่ใส่เหล็กจัดฟัน ทำให้ผู้เข้ารับการรักษาสามารถยิ้มได้แบบมั่นใจ แต่การดูแลสุขภาพช่องปากก็สำคัญเช่นกัน ถึงแม้ว่าทันตแพทย์บอกเองจะบอกว่าผู้เข้ารับการรักษาสามารถรับประทานอาหารได้ทุกอย่าง เพราะเครื่องมือจัดฟันแบบใสสามารถถอดได้ มีเพียงข้อแนะนำเพิ่มเติมจากทันตแพทย์จัดฟันของเราเอง และการแปรงฟันทุกครั้งหลังรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพปากที่ดีก็เพียงพอแล้ว เพราะฉะนั้นผู้เข้ารับการรักษาควรที่จะดูแลรักษาความสะอาดของช่องปากให้ดี และระมัดระวังในเรื่องของการรับประทานอาหารเพื่อไม่ก่อให้เกิดปัญหาอื่นๆตามมาได้

2
ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากเสียงดัง
ในโรงงานอุตสาหกรรม
โรงงานหรือสถานประกอบกิจการที่มีปัญหาด้านเสียงเกินค่ามาตรฐาน อาจสร้างผลกระทบทั้งด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงานต่อพนักงานในโรงงานเอง หรืออาจก่อให้เกิดมลพิษทางเสียงต่อชุมชนและสภาพแวดล้อมที่อยู่ด้านนอกโรงงาน หากเจ้าของแหล่งกำเนิดเสียงหรือผู้เกี่ยวข้องปล่อยปละละเลย ไม่จัดทำโครงการควบคุมเสียงหรือแก้ไขปัญหาดังกล่าวไม่สำเร็จ จะทำให้มีผลกระทบตามมา เช่น

•   เป็นผู้กระทำผิดกฎหมายด้านเสียง มีทั้งโทษปรับและจำคุก
•   ลูกจ้างอาจเกิดภาวะสูญเสียการได้ยินแบบชั่วคราวหรือแบบถาวร
•   ประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานลดลงจากเสียงเกินค่ามาตรฐาน
•   ถูกร้องเรียนจากชุมชนหรือผู้ได้รับผลกระทบทางเสียงที่อยู่นอกโรงงาน
•   โรงงานหรือสถานประกอบกิจการอาจถูกสั่งปิดปรับปรุง จนกว่าจะแก้ไขแล้วเสร็จ

ทำไมต้องใช้บริการจาก
“NEWTECH INSULATION” ในการควบคุมเสียง?
ด้วยประสบการณ์กว่า 15 ปี ในการควบคุมเสียงอุตสาหกรรม เรามีความพร้อมทั้งด้านบุคลากรเฉพาะทางที่มีความรู้ด้านเสียงและความสั่นสะเทือน เครื่องมืออันทันสมัยที่ได้มาตรฐานตามที่กฎหมายกำหนด รวมถึงประสบการณ์ด้านการแก้ไขปัญหาเสียงอุตสาหกรรมที่มีทั้งในและต่างประเทศ ผู้ใช้บริการจึงมั่นใจได้ว่าปัญหาด้านเสียงในโรงงานหรือสถานประกอบกิจการจะได้รับการแก้ไขได้อย่างตรงจุด ด้วยค่าใช้จ่ายที่น้อยที่สุด เพราะเราเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมเสียงในอุตสาหกรรม
– บริษัทฯ ขึ้นทะเบียนและได้รับใบอนุญาตเป็นนิติบุคคลผู้ให้บริการตรวจวัดและวิเคราะห์สภาวะการทำงานเกี่ยวกับระดับเสียง โดยกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน
– บุคลากรของบริษัทฯ ได้รับใบอนุญาตเป็นผู้ควบคุมมลพิษเสียงและความสั่นสะเทือน จากสภาวิชาชีพวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
– มีทีมงานที่มากประสบการณ์และความรู้ ได้แก่ วิศวกร นักสิ่งแวดล้อมอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน ช่างเทคนิค รวมไปถึงช่างประกอบและติดตั้งระบบควบคุมเสียง
– มีเครื่องมือที่ได้มาตรฐานไว้ให้บริการทั้งด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์
– มีสินค้าสำหรับควบคุมเสียงและความสั่นสะเทือนให้เลือกหลากหลายรูปแบบ เช่น ผนังกันเสียง ห้องเก็บเสียง ม่านกันเสียง ตู้ครอบลดเสียง แจ็คเก็ตลดเสียง ไซเลนเซอร์ อคูสติคลูเวอร์ อุปกรณ์แยกความสั่นสะเทือน เป็นต้น
– มีการประเมินหรือทำตัวแบบจำลองระดับเสียง ก่อน-หลัง ปรับปรุงให้ลูกค้าใช้เป็นข้อมูลในการตัดสินใจ ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและเวลาในการแก้ปัญหาด้านเสียง
– รับประกันระดับเสียงที่ลดลง อยู่ในเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด
– รับประกันคุณภาพสินค้าและฝีมือการติดตั้งทุกงาน

บริษัท นิวเทค อินซูเลชั่น จำกัด
ผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมเสียงในโรงงานอุตสาหกรรม
จากประสบการณ์ในการแก้ไขปัญหาด้านเสียงมายาวนาน ไม่ว่าจะเป็นเสียงทางอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงาน และเสียงทางสิ่งแวดล้อม
ทางบริษัทฯ ยินดีให้คำแนะนำที่ทำได้จริงสำหรับการแก้ปัญหาด้านมลภาวะทางเสียงที่เกิดขึ้น เพื่อให้ทั้งโรงงาน พนักงาน หรือชุมชนโดยรอบอยู่ร่วมกันได้
“เพราะเรา…เข้าใจเรื่องเสียง”


สนใจสั่งซื้อ
เบอร์โทร:  02-583-8035 , 02-583-8034, 098-995-4650
E-mail: contact@newtechinsulation.com
Line ID: @newtechinsulation
Facebook: newtechthai
Instagram: newtechinsulation
เว็บไซด์: https://www.noisecontrol365.com/


3
“สร้างเงินแสนจากครัวที่บ้าน” สไตล์ครูแมกซ์

จุดเริ่มต้นเพียงแค่ไม่มีใจรักการเป็นลูกน้อง และไม่ชอบการทำงานในองค์กร บวกกับมีความตั้งใจที่ว่า อยากฝึกทักษะการทำอาหารไว้ทำให้คุณพ่อคุณแม่ทานตอนท่านแก่
พร้อมกับคำพูดของคุณแม่ที่ชอบบอกว่า “การขายของมันได้จับเงินทุกวัน” นั่นคือจุดตัดสินใจ

ครูแมกซ์
จุดเริ่มต้นง่ายๆก็เริ่มจากการเรียนรู้จากคุณแม่ของครูแมกซ์เอง ท่านเป็นคนทำอาหารไทยอร่อย และเคยเปิดร้านอาหารมาก่อนตอนครูแมกซ์เด็กๆ
โดยใช้การถาม สังเกตอย่างละเอียด และฝึกชิมรสชาติของอาหารที่แท้จริง (เพราะคุณแม่ไม่เคยชั่งตวงวัดแม่บอกชิมให้เป็นไม่ต้องมาถามสูตร555)
ร่วมกับการเรียนรู้ผ่านสื่อออนไลน์ เช่น ยูทูป ดูทุกวันตลอดระยะเวลา 8-10ปี พร้อมกับการซื้อวัตถุดิบมาลงมือทำจริง ชิมจริง ทำให้คคุณแม่ทานจริง

ครูแมกซ์
จนถึงจุดที่มั่นใจแล้วว่า…จะทำอาหารเพื่อสร้างรายได้เริ่มง่ายๆจากครัวที่บ้าน
จากประสบการณ์ตลอดระยะเวลา15ปี ที่ครูแมกซ์มีรายได้จากอาหาร ไม่ว่าจะเป็นการยืนขายสลัดริมถนนหน้าตึกชาญอิสะ2 เปิดรับออเดอร์ลุกค้าในหมู่บ้าน การพรีออเดอร์ผ่านทางโซเชียลมีเดีย หรือแม้กระทั่งการออกบูทตามห้างดังต่างๆ

ทั้งหมดนี้ผ่านการทำจริง ได้ผลลัพธ์จริงมาทั้งหมดแล้วด้วยตัวครูแมกซ์เองคนเดียว (แบบไม่เลือกการมีลูกน้อง)

จึงมั่นใจมากว่าจากประสบการณ์ทั้งหมดที่ครูแมกซ์สั่งสมมาตลอดจนถึงวันนี้

ไข่เจียว
ครูแมกซ์ได้พิสูจน์แล้วว่า…การสร้างเงินแสนจากครัวที่บ้าน “มันทำได้จริง”
ครูแมกซ์ก็พร้อมที่จะถ่ายทอดทุกสูตรลัด แบไต๋ทุกเคล็ดลับให้คุณแบบหมดเปลือก!!  !!ความตั้งใจนั้นมันก็ได้เกิด”ผลลัพธ์”กับลูกศิษย์ครูแมกซ์เรียบร้อยแล้ว

📌น้องมิ้นท์ นักเรียนคอร์สไพรเวทจับมือทำรอบสด
ลาออกจากงานประจำเพื่อมาเปิดร้านขายอาหาร หลังจากเรียนกับครูแมกซ์ไปเพียงแค่3วัน น้องได้จับเงินบาทแรกจากอาหารทันที!!
โดยเปิดรับพรีออเดอร์จากอาพาร์ทเมนต์ (โดยมีครูแมกซ์เป็นที่ปรึกษาตลอด1เดือนเต็ม) เริ่มจากเมนูง่ายๆที่ครูแมกซ์เลือกให้เป็นเมนูประจำร้าน คือ “เมนูไข่ฟูหมูฉ่ำนัว”

‼️ล่าสุดเพียงแค่ 2เดือน ยอดขายเดือนกุมภาพันธ์ 68
สรุปได้ยอดขาย 60,000 บาท (ทำด้วยตัวคนเดียว)

📌น้องเติ๊ด นักเรียนคอร์สออนไลน์
เป็นพนักงานประจำหัวหน้าแผนกHR อยากหาอาชีพเสริมเพื่อวางแผนลาออกจากงานประจำ หลังจากเรียนคอร์สครูแมกซ์ภายใน 7 วัน น้องได้จับเงินบาทแรกจากอาหารทันที!!
โดยเปิดรับออเดอร์ที่คอนโด เริ่มจากเมนูง่ายๆที่เรียนจากคอร์สสูตรกะเพรา กับ คอร์ส10เมนูไข่ทำง่ายรายได้ปัง เมนูประจำร้าน คือ “เมนูข้าวไข่เจียว ไข่ข้น”
‼️ล่าสุดเพียงแค่ 2เดือน ยอดขายได้มากกว่าเงินเดือนประจำเป็นที่เรียนร้อยแล้ว พร้อมกับยื่นใบลาออก (แต่นายยังไม่อนุมัติ)

สนใจติดต่อสอบถามข้อมูล
ไลน์ ID  :  @krumax
Page FB : https://web.facebook.com/profile.php?id=61569480015186
เว็บไซด์ : https://krumax.net/krumaxcourse/
เบอร์โทร : 081-413-4479


4
Doctor At Home: ไข้ฉี่หนู/เล็ปโตสไปโรซิส (Leptospirosis)

เล็ปโตสไปโรซิส (Leptospirosis) เป็นโรคติดเชื้อที่พบได้เป็นครั้งคราวในแทบทุกจังหวัด พบมากในคนที่มีอาชีพที่ต้องย่ำน้ำหรือแช่น้ำ เช่น ทำนา ทำสวน จับปลา เก็บขยะ ขุดท่อ เลี้ยงสัตว์ ทำงานในโรงฆ่าสัตว์ ทำเหมืองแร่ แม่บ้านที่เตรียมอาหารจากเนื้อสัตว์ นักท่องเที่ยวที่นิยมเที่ยวป่า น้ำตก ทะเลสาบ ว่ายน้ำในแหล่งน้ำจืด เป็นต้น

พบในผู้ชายมากกว่าผู้หญิงประมาณ 2.5 เท่า ส่วนใหญ่พบในกลุ่มอายุ 15-54 ปี

โรคนี้พบได้ประปรายตลอดปี แต่จะพบมากในช่วงเดือนสิงหาคมถึงพฤศจิกายน ซึ่งเป็นช่วงที่มีน้ำขัง หรือเกิดภาวะน้ำท่วม มีเชื้อโรคขังอยู่ในน้ำ เมื่อคนเดินลุยน้ำหรือลงแช่น้ำก็มีโอกาสได้รับเชื้อนี้ บางครั้งอาจพบมีการระบาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่มีภาวะน้ำท่วม

ในระยะหลังๆ นี้ พบผู้ป่วยเป็นโรคนี้กันมากทางภาคอีสาน เนื่องจากมีหนูชุกชุมตามท้องนา และมักจะเป็นชนิดรุนแรง ชาวบ้านเรียกว่า ไข้ฉี่หนู

สาเหตุ

เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียชนิดหนึ่ง ที่มีชื่อว่าเชื้อ เล็ปโตสไปร่า (leptospira) มีอยู่หลายพันธุ์ย่อย ซึ่งก่อให้เกิดอาการและความรุนแรงแตกต่างกันไป ขึ้นกับชนิดและปริมาณของเชื้อ

เชื้อนี้จะมีอยู่ในไตของสัตว์ ที่พบบ่อย คือ หนูท่อ หนูนา หนูพุก นอกจากนี้ยังพบในสุนัข สุกร แมว โค กระบือ แพะ แกะ

เชื้อที่ก่อโรครุนแรงมีชื่อว่า Leptospira icterohaemorrhagiae อาศัยอยู่ในหนูและสุนัข Leptospira bataviae อาศัยอยู่ในหนู สุนัข โค กระบือ

สัตว์เหล่านี้จะปล่อยเชื้อออกมากับปัสสาวะ เชื้อจะสามารถมีชีวิตอยู่ในแหล่งน้ำหรือพื้นดินที่ชื้นแฉะได้นานหลายเดือน

คนเราจะรับเชื้อเข้าร่างกาย โดยผ่านเข้าทางบาดแผลถลอกหรือขีดข่วนตามผิวหนัง หรือเข้าทางเยื่อบุตา จมูกหรือช่องปากที่ปกติ วิธีติดเชื้อที่สำคัญ ได้แก่ การย่ำน้ำที่ท่วมขัง (เช่น ตามซอกซอยในเมือง) หรือพื้นดินที่ชื้นแฉะ (เช่น ตามท้องนา) และการแช่อยู่ในน้ำตามห้วยหนองคลองบึง เป็นเวลาเกิน 2 ชั่วโมงขึ้นไป (เช่น จับปลา เก็บผัก เล่นน้ำ แข่งกีฬาทางน้ำ) นอกจากนี้ยังสามารถติดเชื้อโดยการกินอาหารหรือดื่มน้ำที่ปนเปื้อนเชื้อจากปัสสาวะหนู หรือสัมผัสถูกเลือด ปัสสาวะ หรือเนื้อเยื่อของสัตว์ที่ติดเชื้อโดยตรง

ระยะฟักตัว 2-26 วัน (ที่พบบ่อย คือ 7-14 วัน)

อาการ

ผู้ป่วยจะมีอาการไข้สูง หนาวสั่น ปวดศีรษะรุนแรง ปวดเมื่อยตามกล้ามเนื้อคล้ายไข้หวัดใหญ่ แต่แตกต่างตรงที่จะรู้สึกปวดมากตรงบริเวณน่อง หลัง และหน้าท้อง

บางรายอาจมีไข้ติดต่อกันหลายวันสลับกับระยะไข้ลด

บางรายอาจมีอาการตาแดง คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเดิน เจ็บคอ ไอ เจ็บหน้าอก บางรายอาจมีอาการปวดตรงชายโครงขวา (ซึ่งอาจปวดรุนแรง จนแพทย์วินิจฉัยว่าเป็นภาวะปวดท้องเฉียบพลัน และผ่าตัดช่องท้องดู)

อาจมีอาการตาเหลืองเล็กน้อย หลังมีไข้ 4-7 วัน

ในรายที่เป็นรุนแรง (พบได้ประมาณร้อยละ 10 ของผู้ป่วย) หลังมีไข้ 4-9 วัน จะมีอาการตาเหลืองจัด ปัสสาวะเหลืองเข้ม ปัสสาวะออกน้อย บางรายอาจมีอาการเลือดกำเดาไหล มีจุดแดงจ้ำเขียวขึ้นตามตัว หรืออาเจียนเป็นเลือดหรือถ่ายเป็นเลือด บางรายอาจมีอาการเจ็บหน้าอกรุนแรง หายใจหอบ หรือไอเป็นเลือด

ภาวะแทรกซ้อน

ที่สำคัญและเป็นสาเหตุของการเสียชีวิต ได้แก่ ไตวาย ภาวะเลือดออก (ซึ่งเกิดจากการอักเสบของผนังหลอดเลือด) โดยเฉพาะอย่างยิ่งเลือดออกในทางเดินอาหารและในปอด ซึ่งมักพบในกลุ่มผู้ป่วยที่มีอาการดีซ่านร่วมด้วย

นอกจากนี้อาจพบภาวะตับวาย ปอดอักเสบ กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ เยื่อบุหัวใจอักเสบ ภาวะหัวใจห้องบนเต้นแผ่วระรัว หัวใจวาย เยื่อหุ้มสมองอักเสบ

บางรายหลังจากอาการทั่วไปหายดีแล้ว อาจมีอาการผิดปกติทางจิต เช่น โรคจิต (psychosis) กระสับกระส่าย พฤติกรรมผิดปกติเป็นเวลานานมากกว่า 6 เดือน

การวินิจฉัย

แพทย์จะวินิจฉัยจากอาการและสิ่งตรวจพบ ดังนี้

ไข้สูง 39-40 องศาเซลเซียส

เยื่อตาขาวมีลักษณะบวมแดง (conjunctival suffusion) ที่ตา 2 ข้าง ซึ่งเกิดจากหลอดเลือดที่เยื่อบุตาขยายตัว มักเกิดขึ้นภายใน 3 วันแรกของโรค และเป็นอยู่นาน 1-7 วัน อาจพบร่วมกับภาวะเลือดออกใต้ตาขาว

เมื่อใช้มือบีบบริเวณกล้ามเนื้อน่อง จะมีอาการเจ็บปวดมาก

บางรายอาจตรวจพบต่อมน้ำเหลืองโต ตับโต ม้ามโต ตาเหลืองเล็กน้อย หรือพบผื่นแดง ลมพิษตามผิวหนัง

บางรายอาจพบอาการคอแข็ง (หลังเป็นไข้ประมาณ 1 สัปดาห์)

การทดสอบทูร์นิเคต์อาจให้ผลบวก (ดูวิธีทดสอบใน โรคไข้เลือดออก ที่หัวข้อ "อาการ" เพิ่มเติม)

ในรายที่เป็นรุนแรง มักตรวจพบอาการตาเหลือง ตัวเหลืองจัด ตับโตและเจ็บ มีจุดแดงจ้ำเขียวหรือรอยห้อเลือดตามผิวหนัง อาการไตวายเฉียบพลัน

นอกจากนี้ ยังอาจตรวจพบภาวะซีด หายใจหอบเร็ว ภาวะหัวใจวาย ชีพจรเต้นไม่สม่ำเสมอ ความดันต่ำ

แพทย์จะทำการวินิจฉัยให้แน่ชัดโดยการตรวจเลือด จะพบจำนวนเม็ดเลือดขาวสูงกว่าปกติ บางรายอาจสูงถึง 50,000 ตัว/ลบ.มม. เกล็ดเลือดต่ำ นอกจากนี้ยังพบระดับของบียูเอ็น (BUN) ครีอะตินีน (creatinine) เอเอสที (AST) และเอแอลที (ALT) สูงกว่าปกติ

การตรวจปัสสาวะพบสารไข่ขาว เม็ดเลือดแดงและเม็ดเลือดขาว

ในรายที่ปวดศีรษะรุนแรง หรือสงสัยเป็นเยื่อหุ้มสมองอักเสบแทรกซ้อน อาจต้องเจาะหลัง

อาจต้องทำการเพาะเชื้อจากเลือด ปัสสาวะ หรือน้ำไขสันหลัง

การทดสอบทางน้ำเหลือง ซึ่งมีอยู่หลายวิธี เช่น IgM-ELISA, microscopic agglutination test (MAT), macroscopic slide agglutination test (MSAT), latex agglutination test, lepto-dipstick test เป็นต้น มักพบสารภูมิต้านทานต่อเชื้อนี้ขึ้นสูง

การรักษาโดยแพทย์

แพทย์จะให้การดูแลรักษา ดังนี้

1. ในรายที่เป็นไม่รุนแรง ให้ยาปฏิชีวนะ เช่น อะม็อกซีซิลลิน หรือดอกซีไซคลีน

2.  ในรายที่เป็นรุนแรง แพทย์จะรับตัวไว้ในโรงพยาบาล ให้ยาปฏิชีวนะชนิดฉีด เช่น เพนิซิลลินจี ดอกซีไซคลีน หรือเซฟทริอะโซน (ceftriaxone) ฉีดเข้าหลอดเลือดดำ

นอกจากนี้จะให้การรักษาตามอาการที่พบ เช่น ให้ยาลดไข้ ให้น้ำเกลือถ้ามีภาวะขาดน้ำ ให้เลือดถ้ามีเลือดออก

ถ้ามีภาวะไตวาย อาจต้องทำการฟอกล้างของเสียหรือล้างไต (dialysis)

ผลการรักษา ขึ้นกับความรุนแรงโรคและสภาพของผู้ป่วย ถ้าไม่มีอาการดีซ่าน อาการมักจะไม่รุนแรง แต่ถ้ามีดีซ่านร่วมด้วย มักจะมีภาวะแทรกซ้อนรุนแรง และมีอัตราตายถึงร้อยละ 15-20 ซึ่งมักเกิดจากภาวะไตวาย หรือช็อกจากการเสียเลือด ภาวะรุนแรงมักเกิดในผู้สูงอายุและหญิงตั้งครรภ์

การดูแลตนเอง

หากสงสัย เช่น มีไข้สูงร่วมกับอาการหนาวสั่น หรือมีไข้ร่วมกับตาแดง ตาเหลือง ปวดศีรษะรุนแรง ปวดท้องมาก หรือปวดน่องมาก หรือมีไข้ในช่วงที่มีคนในละแวกใกล้เคียงเป็นไข้ฉี่หนู ควรปรึกษาแพทย์

เมื่อตรวจพบว่าเป็นไข้ฉี่หนู (เล็ปโตสไปโรซิส) ควรดูแลตนเอง ดังนี้

    รักษา กินยา และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์
    ติดตามรักษากับแพทย์ตามนัด

ควรกลับไปพบแพทย์ก่อนนัด ถ้ามีลักษณะข้อใดข้อหนึ่ง ดังต่อไปนี้

    ดูแลรักษาแล้วอาการไม่ทุเลาใน 2-3 วัน
    มีอาการปวดศีรษะมาก อาเจียนมาก ซึมมาก ไม่ค่อยรู้สึกตัว เพ้อคลั่ง หรือชัก
    หายใจหอบ เจ็บหน้าอกมาก หรือชีพจรเต้นผิดปกติ
    ปัสสาวะออกน้อยหรือไม่ออกเลย
    มีเลือดออก เช่น ถ่ายเป็นเลือด หรือถ่ายอุจจาระดำ
    ตาเหลืองตัวเหลือง หน้าตาซีดเซียว หรือเบื่ออาหารมาก
    ขาดยา ยาหาย หรือกินยาไม่ได้
    ในรายที่แพทย์ให้ยากลับไปกินต่อที่บ้าน กินยาแล้วสงสัยเกิดผลข้างเคียงจากยา เช่น มีลมพิษ ผื่นคัน ตุ่มพุพอง ตาบวม ปากบวม ปวดท้อง ท้องเดิน คลื่นไส้ อาเจียน จุดแดงจ้ำเขียว หรือมีอาการผิดปกติอื่น ๆ

การป้องกัน

1. กำจัดหนู (ซึ่งเป็นแหล่งแพร่เชื้อที่สำคัญ) ทั้งในนาข้าวและในที่อยู่อาศัย

2. รักษาความสะอาดบริเวณบ้านเรือน อย่าให้มีขยะและเศษอาหารตกค้าง อันจะเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของหนู

3. ถ้ามีบาดแผล รอยถลอก ขีดข่วน ให้ปิดแผลและหลีกเลี่ยงการย่ำน้ำที่ท่วมขังหรือพื้นดินที่ชื้นแฉะ หรือลงแช่น้ำในห้วยหนองคลองบึง

4. ถ้าต้องเดินย่ำน้ำหรือพื้นดินที่ชื้นแฉะ (ตามตรอก ซอย คันนา ท้องนา ท้องไร่) ให้ใส่รองเท้าบู๊ตหรือรองเท้าหุ้มข้อ

5. อย่าลงแช่น้ำในห้วยหนองคลองบึงนานเกินครั้งละ 2 ชั่วโมง และเมื่อขึ้นจากน้ำควรฟอกสบู่และชำระด้วยน้ำสะอาด

6. เก็บหรือปกปิดอาหารและน้ำดื่มให้มิดชิด อย่าให้หนูปัสสาวะใส่

7. ดื่มน้ำต้มสุก และกินอาหารที่ปรุงสุกใหม่ ๆ ด้วยความร้อน

8. หมั่นล้างมือภายหลังจับต้องเนื้อ ซากสัตว์ และสัตว์ทุกชนิด

9. ในกรณีที่ต้องเดินทางเข้าไปในแหล่งที่มีโรคนี้ชุกชุมในช่วงเวลาสั้น ๆ (เช่น การตั้งค่ายของกองทหาร นักเรียน นักศึกษา) และไม่สามารถใช้วิธีป้องกันอย่างอื่น ๆ ได้ ควรกินยาดอกซีไซคลีนป้องกันล่วงหน้า ครั้งละ 200 มก. ตั้งแต่ในวันแรกที่เข้าไป ต่อมากินทุกต้นสัปดาห์ และวันหยุดสุดท้ายก่อนกลับ

ข้อแนะนำ

1. อาการไข้สูง หนาวสั่น ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตามตัว นอกจากนึกถึงสาเหตุจากไข้หวัดใหญ่ ไทฟอยด์ สครับไทฟัส กรวยไตอักเสบเฉียบพลัน มาลาเรีย ไข้เลือดออก ถุงน้ำดีอักเสบ และท่อน้ำดีอักเสบแล้ว จะต้องนึกถึงไข้ฉี่หนูหรือโรคเล็ปโตสไปโรซิสไว้ด้วยเสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าพบมีอาการตาแดงหรือดีซ่านร่วมด้วย ในผู้ป่วยที่อยู่ในถิ่นที่มีโรคนี้ชุกชุม

2. โรคนี้ส่วนใหญ่ (กว่าร้อยละ 90) จะมีอาการไม่รุนแรง โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าไม่มีอาการดีซ่านร่วมด้วย จนบางครั้งมักจะวินิจฉัยว่าเป็นไข้หวัดใหญ่ หรือโรคติดเชื้อไวรัส ดังนั้นเมื่อพบผู้ป่วยที่มีอาการสงสัยว่าเป็นไข้หวัดใหญ่ หรือโรคติดเชื้อไวรัส ควรตรวจโดยการบีบน่องผู้ป่วย ถ้ารู้สึกเจ็บน่องมาก ควรสงสัยว่าอาจเป็นไข้ฉี่หนูหรือเล็ปโตสไปโรซิส ควรสังเกตอาการเปลี่ยนแปลงอย่างใกล้ชิด และไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลโดยเร็ว การรักษาแต่เนิ่น ๆ จะช่วยให้ผู้ป่วยหายจากโรคได้ภายใน 10-14 วัน

ส่วนรายที่เป็นรุนแรง (พบได้ร้อยละ 10) มักจะมีอาการตาเหลืองจัด บางครั้งทำให้เข้าใจผิดว่าเป็นตับอักเสบจากไวรัส ข้อแตกต่าง คือ ตับอักเสบจากไวรัสมักจะไม่มีไข้เมื่อมีอาการดีซ่าน ในขณะที่เล็ปโตสไปโรซิสจะมีไข้สูงขณะที่มีอาการดีซ่าน และมักจะมีอาการอื่น ๆ เช่น ไตวาย (ปัสสาวะออกน้อย) เลือดกำเดาไหล หรือมีจุดแดงจ้ำเขียวร่วมด้วย

หากสงสัยควรไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลภายใน 24 ชั่วโมง ถ้าได้รับการรักษาที่ถูกต้องก็มักจะหายได้ภายใน 2-3 สัปดาห์

5
การทำอาชีพเสริม การตลาดแบบอัตโนมัติ การเสริมสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าที่มีอยู่

Marketing Automation เป็นเครื่องมือทางการตลาดที่ทรงพลังที่ช่วยให้ธุรกิจสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้าเก่าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ธุรกิจต่างๆ ต้องทำมากกว่าการหาลูกค้าใหม่ แต่ยังต้องดูแลและรักษาลูกค้าเดิมเอาไว้ ด้วย ระบบอัตโนมัติทางการตลาดมีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมความสัมพันธ์ระยะยาวกับลูกค้าด้วยการส่งมอบการโต้ตอบแบบเฉพาะบุคคลและตรงเวลา

บทความนี้จะเจาะลึกว่าระบบอัตโนมัติทางการตลาดช่วยให้ธุรกิจต่างๆ รักษาความสัมพันธ์อันแข็งแกร่งกับฐานลูกค้าได้อย่างไร

การตลาดแบบอัตโนมัติคืออะไร?

ระบบอัตโนมัติทางการตลาดหมายถึงการใช้ซอฟต์แวร์และเทคโนโลยีเพื่อปรับปรุงกระบวนการและขั้นตอนการทำงานทางการตลาดให้เป็นระบบอัตโนมัติและวัดผลได้ ช่วยให้ธุรกิจต่างๆ สามารถดึงดูดลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นผ่านอีเมลส่วนบุคคล โฆษณาที่กำหนดเป้าหมาย การโต้ตอบบนโซเชียลมีเดีย และการติดตามผลโดยอัตโนมัติ

ระบบอัตโนมัติทางการตลาดช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าได้อย่างไร

1. การมีส่วนร่วมของลูกค้าแบบเฉพาะบุคคล
ด้วยระบบอัตโนมัติทางการตลาด ธุรกิจต่างๆ สามารถส่งข้อความที่ปรับแต่งได้ตามการโต้ตอบก่อนหน้านี้ ประวัติการซื้อ และความชอบของลูกค้า แทนที่จะใช้อีเมลทั่วไป เครื่องมืออัตโนมัติช่วยให้ธุรกิจต่างๆ สามารถจัดเตรียมเนื้อหาที่เกี่ยวข้องที่ตรงใจลูกค้าแต่ละราย ส่งเสริมความภักดีและความไว้วางใจ

2. การสื่อสารที่สม่ำเสมอ
การสื่อสารที่สม่ำเสมอและมีความหมายเป็นสิ่งสำคัญในการรักษาความสัมพันธ์กับลูกค้าที่มีอยู่ การตลาดแบบอัตโนมัติช่วยให้ธุรกิจต่างๆ ติดต่อสื่อสารกันได้ผ่าน:
ลำดับอีเมลอัตโนมัติ (เช่น การติดตาม การแจ้งเตือน ข้อเสนอพิเศษ)
อัพเดทโปรแกรมความภักดี
แคมเปญรีทาร์เก็ตติ้งบนโซเชียลมีเดีย

3. การรักษาลูกค้าและการเปิดใช้งานใหม่
การตลาดแบบอัตโนมัติช่วยให้ธุรกิจระบุลูกค้าที่ไม่ได้ใช้งานและดึงดูดพวกเขากลับมาอีกครั้งผ่านโปรโมชัน ส่วนลด หรือข้อความส่วนตัวที่กำหนดเป้าหมายการแจ้งเตือนอัตโนมัติเกี่ยวกับรถเข็นที่ถูกละทิ้งหรือข้อเสนอวันเกิดพิเศษสามารถกระตุ้นให้ลูกค้ากลับมาอีกครั้ง

4. การสนับสนุนและความพึงพอใจของลูกค้าที่ได้รับการปรับปรุง
ระบบอัตโนมัติสามารถปรับปรุงประสบการณ์ของลูกค้าได้โดย:
AI Chatbotsที่ให้การสนับสนุนทันที
แบบสำรวจข้อเสนอแนะอัตโนมัติเพื่อรวบรวมข้อมูลเชิงลึกและปรับปรุงบริการ
ติดตามหลังการซื้อเพื่อให้แน่ใจว่าลูกค้าพึงพอใจ

5. ข้อมูลเชิงลึกที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลเพื่อการตัดสินใจที่ดีขึ้น
เครื่องมือการตลาดอัตโนมัติจะรวบรวมและวิเคราะห์พฤติกรรมของลูกค้า ช่วยให้ธุรกิจสามารถติดตามการมีส่วนร่วม รูปแบบการซื้อ และประสิทธิภาพของแคมเปญได้ ข้อมูลนี้จะช่วยปรับแต่งกลยุทธ์การตลาดและส่งมอบเนื้อหาที่เกี่ยวข้องยิ่งขึ้นให้กับลูกค้า

ระบบอัตโนมัติทางการตลาดเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการรักษาความสัมพันธ์อันดีกับลูกค้าที่มีอยู่ โดยการมอบ การโต้ตอบ ที่เป็นส่วนตัว ทันเวลา และขับเคลื่อนด้วยข้อมูลธุรกิจสามารถเพิ่มความภักดีของลูกค้า เพิ่มอัตราการรักษาลูกค้า และขับเคลื่อนความสำเร็จในระยะยาวในที่สุด หากคุณกำลังมองหาวิธีเสริมความแข็งแกร่งให้กับกลยุทธ์การตลาดดิจิทัลของคุณ การผสานการทำงานอัตโนมัติเข้าด้วยกันอาจเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างฐานลูกค้าที่เจริญรุ่งเรือง

6
บริการรถกระบะรับจ้าง ช่วงปีใหม่ รับจ้างขนของ ย้ายบ้าน ราคาถูก 4-6รถขนของ

บริการรถรับจ้างขนของ ทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็น รถ 6 ล้อรับจ้าง รถรับจ้างย้ายบ้าน เช่ารถกระบะ รถกระบะรับจ้าง รับจ้างขนของ รถสิบล้อรับจ้าง รถเทรลเลอร์รับจ้าง รถเฮี๊ยบรับจ้างรถขนของ และ รถรับจ้างทั่วไป ในช่วงเทศกาลวันสำคัญนี้เรา มีงานที่จะเข้าไปให้บริการลูกค้าไม่ว่าจะเป็นงาน ขนย้ายบ้าน ขนย้ายของ ขนย้ายสำนักงาน ขนย้ายเครื่องจักร ขนย้ายอุปกรณ์ ทั่วไป วัสดุก่อสร้าง ขนย้ายเฟอร์นิเจอร์ ขนส่งสินค้า และบริการ รับจ้างขนของ อื่นๆทั่วไปอีกมากมาย ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหน ในประเทศไทยเราก็มีรถไว้คอยเข้าไปให้บริการท่านได้ในทุกพื้นที่ทุกจังหวัด ทุกอำเภอ ท่านสามารถที่จะเรียกใช้บริการกับเราได้เลยทันที

โดยเฉพาะโปรโมชั่นที่เราจะจัดขึ้นในช่วงเทศกาลปีใหม่  นี้โดยจะเริ่มตั้งแต่เดือนธันวาคมไปจนถึงเดือนมกราคม ซึ่งเราจะมีโปรโมชั่นราคาถูก ทั้งบริการ รถเที่ยวกลับ ให้ลูกค้าได้เขามาเลือกใช้ขนาดของรถที่มีความเหมาะสมกับงานของท่านได้อย่างสบาย แต่ต้องขอบอกก่อนว่า สำหรับรถเที่ยวกลับราคาถูกนี้ จะมีจำนวนที่จำกัดในแต่ละวันเนื่องจากว่าในช่วงวันเทศกาลจะมีลูกค้าต้องการที่จะขนย้ายของเป็นจำนวนมาก ซึ่งสำหรับลูกค้ารายหลายๆท่านที่มีความชัดเจนในการขนย้ายของมีวันที่กำหนดไว้แล้วส่วนใหญ่จะโทรเข้ามาล็อกคิวงานกันล่วงหน้า เป็นที่เรียบร้อย ซึ่งจะได้ รถเที่ยวกลับราคาถูก และประหยัดต้นทุนเป็นอย่างมาก แต่สำหรับท่านใดที่ยังไม่มีแผนที่แน่นอนก็ไม่เป็นไรหากโปรโมชั่นนี้หมดลงไป ท่านก็ยังมี รถรับจ้าง ที่ให้บริการขนย้ายอยู่เป็นประจำ และได้เปอร์เซ็นต์ส่วนลด มากถึง 30 เปอร์เซ็นต์ ไปคอยบริการท่านได้เช่นเดียวกันท่านไม่ต้องกังวลว่าจะไม่มีรถไว้คอยบริการซึ่งเรามีทีมงาน และ รถรับจ้างของเราจำนวนมาก รถทุกประเภทไม่ว่าคุณจะ เช่ารถกระบะ รถกระบะรับจ้างขนของ หกล้อรับจ้าง เราก็มีรถทุกชนิดทุกประเภทไว้ให้บริการท่านทุกขนาดทุกไซส์ได้เป็นอย่างดี สอบถามค่าบริการ กับเจ้าหน้าที่ของเราได้ทุกวันและเวลา ผ่านช่องทางหลายช่องทางไม่ว่าจะเป็น LINE Facebook Twitter IG เว็บไซต์ หรือจะโทรมาโดยตรงได้

เรามีเจ้าหน้าที่ยกสินค้า ไว้คอยบริการท่านในช่วงเทศกาลปีใหม่ นี้ท่านไม่ต้องกังวลว่าจะยกของเพียงคนเดียวหรือไม่มีเพื่อนมาช่วยยกของด้วยจากว่าเรามีเจ้าหน้าที่และเด็กยกสินค้าไว้คอยบริการท่านได้ตลอดทุกเส้นทาง โดยเฉพาะ เส้นทางต่างจังหวัด หากตรงกับจังหวัดที่พนักงานยกของของเราเป็นคนในพื้นที่ในบางครั้ง เขาอาจจะมีความต้องการที่อยากจะกลับบ้านโดยอาจจะติดรถขนส่งไปด้วยกันแล้วทำการให้บริการ ขึ้นของ ลงของ ให้กับลูกค้าที่ต้นทางและปลายทางก่อนจะเลยกลับบ้านก็เป็นได้เช่นเดียวกัน

ซึ่ง รถรับจ้างเทศกาลปีใหม่ นี้เรามีทีมงานและมีความพร้อมที่จะให้บริการลูกค้า ได้อย่างไม่มีปัญหาซึ่งขนส่ง ของเราเรารู้ว่าในเทศกาลปีใหม่ที่จะถึงนี้เราจะต้องมีการเตรียมความพร้อมและวางแผนการทำงานอย่างไรบ้างเพื่อที่จะให้งานของลูกค้าเป็นไปอย่างราบรื่น ไม่มีสะดุดโดยเฉพาะการเตรียม รถขนของ ทุกชนิดไม่ว่าจะเป็น รถกระบะรับจ้าง รถหกล้อรับจ้าง รถสิบล้อรับจ้าง รถรับจ้างย้ายบ้าน รถรับจ้างย้ายเฟอร์นิเจอร์ ย้ายสินค้าอุปโภคบริโภค ขนส่งสินค้าทั่วไป ขนย้ายสำนักงาน

เรามีการเตรียมความพร้อมในเรื่องของรถได้เป็นอย่างดีไม่ว่าจะเป็นการ ตรวจระบบเบรก ระบบน้ำมัน ระบบไฟ ระบบเครื่องยนต์ ร่วมไปจนถึงอย่างที่จะต้องมีความพร้อมและมีสมรรถนะที่ดีตรวจเช็คระบบ ศูนย์ ช่วงล่างและเข้าเช็คศูนย์ให้บริการเป็นอย่างดีก่อนที่จะเข้าไปให้บริการแก่ลูกค้าในช่วงเทศกาลนี้ เพราะว่าปีใหม่ต้องบอกก่อนเลยว่ารถจะติดมากเป็นพิเศษจึงทำให้ลดต้องอยู่บนถนนเป็นระยะเวลานานและหากรถมีการเสียระหว่างทาง คงจะเป็นเรื่องที่ยากมากที่จะให้ หน่วยบริการหรือซ่อมรถเข้าไปถึงที่เกิดเหตุเพราะว่าจะมีรถติดบนท้องถนนเป็นอย่างมาก ดังนั้นเราจึงมีการเตรียมความพร้อมไว้เป็นอย่างดี ทำให้ลูกค้าไม่ต้องมีความกังวลหรือไม่สบายใจ และที่สำคัญ รถรับจ้างขนของ ของเราจะเป็นรถที่ใหม่ทุกคันและมีการทำความสะอาด รถเป็นอย่างดีก่อนที่จะเข้าไปให้บริการลูกค้า

ซึ่ง เราให้บริการมายาวนานกว่า 15 ปี เราให้ความเชื่อถือเชื่อมั่นลูกค้าตลอดมาในเรื่องของงานบริการที่จะต้องมีมาตรฐานมีคุณภาพมีความสะอาดมีความเอาใจใส่และมีความเป็นกันเองต่อลูกค้าทุกคน เราสร้างความเชื่อใจให้กับลูกค้า ที่เข้ามาใช้บริการกับเราเราจะไม่ทำให้คุณต้องผิดหวัง อย่างแน่นอน ทุกโอกาสที่เราได้รับเราจะ ทำงานให้ดีที่สุด

ไม่ว่าคุณต้องการที่จะ ใช้ บริการรถรับจ้างขนของ ไปที่จังหวัดไหนในประเทศไทยทุกเขตพื้นที่อำเภอเราพร้อมที่จะให้บริการท่านตลอด 24 ชั่วโมงเรามีความสุขและมีความเอาใจใส่ในงานบริการ รับจ้างขนของ เป็นอย่างดีท่านไม่ต้องกังวล และในช่วงเทศกาลปีใหม่นี้ขอให้ท่านและครอบครัวของท่านเดินทางและท่องเที่ยวอย่างมีความสุข และปลอดภัย ขอบคุณมากนะคะ


7
ซ่อมบำรุงอาคาร: วิธีซ่อมบ้าน ซ่อมประตู น้ำซึม อุดรูบนผนังง่ายๆ ด้วยตนเอง

ถ้าพูดถึงเรื่องการซ่อมบ้านแล้วแลดูเป็นงานช้างงานใหญ่   ไม่ว่าจะเป็นด้านงบประมาณหรือรายละเอียดปลีกย่อยที่ต้องดูแล โดยปกติแล้วการซ่อมแซมบ้านนั้น  เป็นงานที่ต้องง้อต้องรอผู้เชี่ยวชาญมาดูแล  หลายครั้งต้องรอคิวข้ามเดือนข้ามปีกันเลยทีเดียว ก็ไม่ปฏิเสธหรอกหากว่างานซ่อมนั้นเราไม่สามารถจัดการเองได้ก็ต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญมาประเมินและช่วยซ่อมแซมให้ แต่ถ้าหากเป็นงานซ่อมเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เราสามารถจัดการเองได้  ก็จะประหยัดเงินในกระเป๋าไปได้หลายสตางค์  มาดูกันว่างานซ่อมแบบไหนบ้างที่เราทำเองได้


1. ปัญหาของประตู

ประตูเป็นสิ่งที่มีจำนวนไม่น้อยเลยในบ้านของเรา  ปัญหาของประตูโดยมากแล้วคงหนีไม่พ้นเรื่องเสียงเวลาเปิด-ปิด ประตู ซึ่งดูแล้วอาจเป็นปัญหาเล็กน้อยมากแต่มันก็เกิดความรำคาญใจเราได้โดยเฉพาะเวลาที่ประตูห้องนอนมีเสียงเอี๊ยดอ๊าด ซึ่งอาจเกิดจากบานพับฝืด เราสามารถแก้ไขปัญหานี้โดยการหยอดน้ำมันพืชหรือเบบี้ออยล์ก็ได้  แถมไม่มีกลิ่นรบกวนด้วย อีกหนึ่งปัญหาของประตูคือเรื่องของลูกบิดที่  ล๊อกค้าง  คือเมื่อเปิดจากด้านในที่กดล๊อกแล้วลูกบิดไม่เด้งออก  วิธีแก้ปัญหานี้คือ ไม่ต้องไขมือจับลูกบิดออกให้วุ่นวาย  ถ้าปุ่มล็อกจากด้านในเป็นแบบนูนขึ้น ให้เราใช้มือจับปุ่มล็อกให้แน่น กดลง แล้วหมุนปุ่มล็อกขึ้น  ถ้าปุ่มล็อกเป็นแบบมีร่องตรงกลาง ให้ใช้นิ้วโป้งกดลงไปให้ตรงร่อง กดให้แน่นแล้วหมุนขึ้น เพียงเท่านี้ปัญหาลูกบิดประตูก็ไม่ใช่เรื่องที่เราจะต้องตามช่างอีกต่อไป



2. ปัญหาน้ำซึม

หากพบมีรอยน้ำรั่วซึมภายในบ้านให้ลองสังเกตก่อนว่าซึมมากน้อยแค่ไหน  ถ้าซึมเพียงเล็กน้อยให้หาจุดรั่วให้เจอ  แล้วใช้ซีเมนต์ฉาบหรือกาวดินน้ำมันเพื่ออุดรอยรั่ว    แต่หากซึมจากบนหลังคาต้องดูว่าพบปัญหาหลังคารั่วหรือไม่  อาจเลือกใช้เป็นซิลิโคนหรือการทาสีกันน้ำก็ช่วยได้อีกทางหนึ่ง  แต่ถ้าปัญหามาจากโครงสร้างของบ้าน  อันนี้ต้องตามช่างมาช่วยซ่อมบ้านโดยด่วน



3. ปัญหารูตะปูบนผนัง

สำหรับใครที่เคยตอกตะปูเพื่อแขวนรูปหรือของประดับตกแต่งบ้าน  แต่ต้องการย้ายมุมหรือปรับเปลี่ยนการตกแต่งบ้านใหม่ รอยตะปูที่เราตอกไว้ก็จะทำให้ผนังเรามีตำหนิ  แลดูไม่สวยงาม  เราสามารถจัดการปัญหานี้ด้วยการกางหนังสือพิมพ์บนผนังที่ต้องการซ่อมแซม  ให้ระยะห่างระหว่างผนังกับขอบหนังสือพิมพ์เหลือประมาณ ¼ นิ้ว  หลังจากนั้นเตรียมอะคริลิคสำหรับยาแนวไว้ให้พร้อม (สามารถหาซื้อได้ตามร้านขายวัสดุก่อสร้างทั่วไป) ค่อย ๆ ใช้เกรียงปาดอะคริลิก มาอุดรูตะปูให้เต็มเสมอกับผนัง จากนั้นใช้เกรียงปาดอะคริลิคส่วนเกินออกให้หมด แล้วใช้ฟองน้ำชุบน้ำทำความสะอาดคราบสกปรกอีกครั้ง

งานซ่อมบ้านที่เราพอจะทำเองได้ไม่เหนือบ่ากว่าแรงมากนักก็ลองแก้ปัญหาเอง  แต่หากงานไหนที่ต้องปรึกษาวิศวกรหรือช่างมืออาชีพก็ควรรีบติดต่อซ่อมแซมให้เรียบร้อยดีกว่าปล่อยให้ปัญหาบานปลายและแก้ไขยาก  ซึ่งนั่นก็หมายถึงเราต้องควักเงินในกระเป๋าจ่ายมากกว่าเดิม


8
งานฝีมือ ทำสายนาฬิกาหนังแฮนด์เมด สุดเก๋ไม่เหมือนใคร

การทำสายนาฬิกาหนังแฮนด์เมดเป็นงานฝีมือที่ต้องใช้ความละเอียดอ่อนและเครื่องมือเฉพาะทางเล็กน้อยค่ะ แต่ผลลัพธ์ที่ได้นั้นคุ้มค่ามาก เพราะจะได้สายนาฬิกาที่ไม่เหมือนใคร มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และบ่งบอกสไตล์ของคุณได้อย่างแท้จริง

1. สิ่งที่ต้องเตรียม (อุปกรณ์และวัสดุ)

เพื่อให้สายนาฬิกาออกมาสวยงามและทนทาน การเลือกใช้วัสดุและอุปกรณ์ที่มีคุณภาพเป็นสิ่งสำคัญค่ะ

หนังแท้:

หนังวัว: เป็นที่นิยมที่สุด มีหลายชนิด เช่น หนังฟอกฝาด (Vegetable-tanned leather), หนังฟอกโครม (Chrome-tanned leather), หนังออยล์ (Oil-tanned leather) ซึ่งแต่ละชนิดจะให้สัมผัส สี และการเปลี่ยนแปลงเมื่อใช้งาน (Patina) ที่แตกต่างกัน

หนังประเภทอื่นๆ: หนังจระเข้, หนังปลากระเบน, หนังงู (นิยมใช้เป็นหนังด้านนอกเพื่อความสวยงาม และใช้หนังวัวเป็นหนังซับใน)

ความหนา: เลือกความหนาของหนังให้เหมาะสมกับการใช้งานและขนาดของนาฬิกา โดยทั่วไปจะใช้หนัง 1.2-2.0 มม. สำหรับสายด้านนอก และ 0.8-1.2 มม. สำหรับหนังซับใน

หัวเข็มขัดนาฬิกา (Buckle): เลือกวัสดุ เช่น สเตนเลสสตีล ทองเหลือง หรือวัสดุอื่น ๆ ที่เข้ากับตัวเรือนนาฬิกาของคุณ

สปริงบาร์ (Spring Bars): สำหรับยึดสายนาฬิกาเข้ากับตัวเรือน (มักจะมากับนาฬิกาอยู่แล้ว)

ชุดเครื่องมือสำหรับงานหนังเบื้องต้น:

ค้อนยาง/ค้อนไม้: สำหรับตอก

แผ่นรองตอก: แผ่นยางหรือพลาสติกหนา สำหรับรองรับแรงตอก

คัตเตอร์/มีดตัดหนัง: ใบมีดคมกริบ สำหรับตัดหนัง

ไม้บรรทัดเหล็ก: สำหรับวัดและกรีดหนังให้ตรง

เหล็กตอกรูเย็บ (Prong/Stitching Chisel): สำหรับตอกนำร่องรูเย็บ ช่วยให้รอยเย็บสวยงามและเป็นระเบียบ มีหลายขนาดระยะห่างของฟัน

เหล็กตอกรูเข็มขัด/รูสปริงบาร์: มีหลายขนาด (นิยม 1.5 มม. สำหรับรูสปริงบาร์, 2.0-3.0 มม. สำหรับรูเข็มขัด)

เข็มเย็บหนัง: เข็มปลายแหลมหรือปลายทู่สำหรับเย็บหนัง

ด้ายเย็บหนัง (Waxed Thread): ด้ายเคลือบแวกซ์ มีความเหนียว ทนทาน และกันน้ำได้ดี มีหลายสี

ที่หนีบหนัง (Leather Clamp): ช่วยจับยึดชิ้นงานขณะเย็บ

ไม้ขัดขอบ (Edge Burnisher): สำหรับขัดขอบหนังให้เรียบเนียน

สีทาขอบหนัง (Edge Paint/Edge Dye): สำหรับทาสีและเคลือบขอบหนังให้สวยงามและทนทาน

กาวสำหรับงานหนัง: เช่น กาวตราช้าง (สำหรับยึดชั่วคราว), กาวยาง (สำหรับประกบหนัง)

ปากกา/ดินสอเขียนหนัง: สำหรับร่างแบบ

กระดาษทรายเบอร์ละเอียด: สำหรับขัดแต่งขอบหนัง

2. ขั้นตอนการทำสายนาฬิกาหนังแฮนด์เมด

การทำสายนาฬิกาต้องใช้ความละเอียดและใจเย็นค่ะ โดยหลักๆ จะแบ่งออกเป็น 2 ชิ้น คือ สายด้านสั้น (ส่วนที่มีหัวเข็มขัด) และสายด้านยาว (ส่วนที่มีรูสำหรับรัด)

วัดขนาดและสร้างแพทเทิร์น:

วัดขนาด Lug Width: คือความกว้างของช่องสำหรับใส่สายนาฬิกาที่ตัวเรือน (เป็นขนาดมาตรฐานของสายนาฬิกา เช่น 18mm, 20mm, 22mm)

วัดขนาดหัวเข็มขัด: คือความกว้างของแกนหัวเข็มขัด (มักจะเล็กกว่า Lug Width เล็กน้อย)

วัดความยาวสาย: วัดจากสายนาฬิกาเดิม หรือวัดรอบข้อมือแล้วคำนวณความยาวของสายด้านสั้นและด้านยาวที่เหมาะสม

สร้างแพทเทิร์น: วาดแบบสายนาฬิกาลงบนกระดาษ (อาจจะพิมพ์จากอินเทอร์เน็ตแล้วปรับขนาด) โดยต้องมีส่วนประกอบดังนี้:

สายด้านนอก (Outer Leather): 2 ชิ้น (สั้น 1, ยาว 1)

สายซับใน (Lining Leather): 2 ชิ้น (สั้น 1, ยาว 1)

ห่วงคล้องสาย (Keepers): 2 ชิ้น (ห่วงตาย 1, ห่วงลอย 1)

ตัดกระดาษแพทเทิร์น: ตัดแบบกระดาษให้เรียบร้อย

ตัดหนัง:

วางแพทเทิร์นกระดาษลงบนหนัง (ทั้งหนังด้านนอกและหนังซับใน) และใช้ปากกา/ดินสอเขียนหนังร่างแบบ

ใช้คัตเตอร์หรือมีดตัดหนังที่คมกริบ ตัดหนังตามรอยที่ร่างไว้อย่างระมัดระวัง เพื่อให้ได้ขอบที่เรียบและคม

เตรียมหนังและติดกาว (Bonding):

ทำความสะอาดด้านในของหนังทั้งสองชิ้น (ด้านนอกและซับใน)

ทากาวยางบางๆ ที่ด้านในของหนังทั้งสองชิ้น ปล่อยให้กาวแห้งหมาดๆ (ตามคำแนะนำของกาวยาง)

ค่อยๆ วางหนังซับในลงบนหนังด้านนอกอย่างระมัดระวัง จัดให้ขอบเสมอกัน และกดให้แน่นเพื่อให้หนังติดกันดี

ตอกรูเย็บและเจาะรู:

ตอกรูเย็บ: ใช้เหล็กตอกรูเย็บ (Prong/Stitching Chisel) วางตามแนวขอบที่ต้องการจะเย็บ และใช้ค้อนยางตอกลงไปอย่างสม่ำเสมอและตรง

เจาะรูสปริงบาร์: ใช้เหล็กตอกรูเจาะขนาด 1.5 มม. เจาะรูสำหรับสปริงบาร์ที่ปลายสายทั้งสองด้าน

เจาะรูเข็มขัด: เจาะรูสำหรับแกนหัวเข็มขัดที่ปลายสายด้านสั้น และเจาะรูสำหรับรัดสายนาฬิกาที่ปลายสายด้านยาว

เจาะรูสำหรับห่วงคล้องสาย: เจาะรูเล็กๆ ที่ปลายสายด้านสั้นสำหรับเย็บห่วงตาย

เย็บหนัง (Hand Stitching):

ใช้เข็มเย็บหนังและด้ายเคลือบแวกซ์ เย็บตามรูที่ตอกนำไว้ (นิยมการเย็บแบบ Saddle Stitch ที่แข็งแรงและสวยงาม)

เย็บห่วงคล้องสาย: เย็บห่วงตายติดกับปลายสายด้านสั้น และเย็บห่วงลอย (ห่วงที่เลื่อนได้) คล้องไว้บนสายด้านยาว

ผูกปมและซ่อนปลายด้ายให้เรียบร้อย

เก็บขอบหนัง (Edge Finishing):

ใช้คัตเตอร์หรือกระดาษทรายเบอร์ละเอียด ค่อยๆ แต่งขอบหนังที่เย็บเสร็จแล้วให้เรียบเนียน

ทาสีขอบหนัง: ใช้สีทาขอบหนัง ทาไปที่ขอบที่ต้องการ ทาเป็นชั้นบางๆ ทิ้งให้แห้ง แล้วอาจทาซ้ำ 2-3 รอบ (ขึ้นอยู่กับชนิดของสี)

ขัดขอบหนัง: เมื่อสีขอบแห้งสนิท ใช้ไม้ขัดขอบ (Edge Burnisher) ขัดไปที่ขอบหนัง โดยอาจใช้ความร้อนหรือน้ำเล็กน้อยช่วย เพื่อให้ขอบเรียบเนียนและเงางาม

ติดตั้งหัวเข็มขัดและสปริงบาร์:

สอดปลายสายด้านสั้นเข้ากับหัวเข็มขัด และยึดด้วยสปริงบาร์หรือเย็บติดหากเป็นแบบที่ไม่ใช้สปริงบาร์

ติดสปริงบาร์เข้ากับปลายสายทั้งสองด้าน และนำไปประกอบเข้ากับตัวเรือนนาฬิกาของคุณ

3. ไอเดียสร้างสรรค์เพื่อความ "เก๋ไม่เหมือนใคร"

เลือกชนิดหนังที่แปลกตา: เช่น หนัง Shell Cordovan (หนังม้า) ที่ขึ้นชื่อเรื่องความเงางามและความทนทาน หรือหนังที่มีพื้นผิวพิเศษ

ใช้สีหนังและด้ายที่ตัดกัน: เช่น หนังสีดำกับด้ายสีแดง หรือหนังสีน้ำตาลกับด้ายสีฟ้า

แกะสลัก/ปั๊มลาย/เพ้นท์ลายบนหนัง: หากมีทักษะด้านศิลปะ สามารถแกะสลัก พิมพ์ หรือเพ้นท์ลวดลายเฉพาะตัวลงบนหนังได้

การเล่นกับความหนาของสาย: ทำสายให้หนาขึ้นบริเวณส่วนที่ติดกับตัวเรือน และบางลงเมื่อใกล้หัวเข็มขัด

การทำสายแบบ "Minimalist": ลดรายละเอียด การเย็บให้น้อยที่สุด เน้นความเรียบง่ายของหนังคุณภาพดี

การผสมวัสดุ: ลองเย็บผ้าบางๆ หรือผ้าพิมพ์ลายเล็กๆ ไว้เป็นชั้นซับใน หรือติดชิ้นโลหะเล็กๆ ตกแต่งบนสาย (ต้องระมัดระวังไม่ให้ไปขูดขีดนาฬิกาหรือข้อมือ)

การใช้หนังฟอกฝาด: หนังชนิดนี้จะเปลี่ยนสีเข้มขึ้นและเกิดรอยตามการใช้งาน (Patina) ทำให้สายนาฬิกามีเรื่องราวและเป็นเอกลักษณ์ตามกาลเวลา

การทำสายนาฬิกาหนังแฮนด์เมดต้องอาศัยการฝึกฝนและความอดทน แต่เป็นงานที่สนุกและคุ้มค่ามากๆ ค่ะ ขอให้คุณสนุกกับการสร้างสรรค์สายนาฬิกาสุดเก๋ไม่เหมือนใครของคุณนะคะ!

9
จัดฟันบางนา: การจัดฟันแบบใส ช่วยส่งเสริมสุขภาพช่องปากอย่างไร

การจัดฟันแบบใส ถือเป็นการจัดฟันอีกรูปแบบหนึ่งที่ถือว่าได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน เพราะเนื่องด้วยการจัดฟันแบบใส มีคุณสมบัติที่โดดเด่นกว่าการจัดฟันในรูปแบบอื่น นั่นก็คือ เราสามารถถอดเครื่องมือการจัดฟันได้ และคนอื่นยังมองไม่ออกด้วยว่า คุณกำลังเข้ารับการจัดฟันอยู่ ซึ่งถือว่านี่คือจุดเด่นหลักๆที่ทำให้การเข้ารับการจัดฟันแบบใส แตกต่างจากการเข้ารับการจัดฟันแบบอื่น นอกจากนี้ เครื่องมือของการจัดฟันแบบใส ยังถูกออกแบบมาเฉพาะบุคคลด้วยระบบคอมพิวเตอร์ โดยแสดงผลออกมาแบบวิดีโอสามมิติ

เพื่อให้เครื่องมือเหมาะสมกับช่องปากของผู้เข้ารับการรักษา อย่างไรก็ตาม การเข้ารับการจัดฟัน นอกจากจะทำให้ผู้เข้ารับการรักษารู้สึกมั่นใจขณะที่ยังจัดฟันแล้ว ยังทำให้ผู้เข้ารับการรักษาสามารถรับประทานอาหารได้อย่างเต็มที่และหลากหลายมากขึ้น โดยไม่ต้องกลัวว่า เศษอาหารจะเข้าไปติดตากซอกเหล็กหรือเครื่องมือจัดฟัน เพราะการจัดฟันแบบใส ผู้เข้ารับการรักษาสามารถถอดเครื่องมือการจัดฟันได้ขณะที่รับประทานอาหาร

และนอกจากนี้ ยังสามารถถอดเครื่องมือได้ขณะแปรงฟันด้วย ทำให้ลดความเสี่ยงของการเกิดบาดแผลภายในช่องปาก ที่อาจจะส่งผลต่อให้มีความเสี่ยงต่อการเกิดการติดเชื้อได้ และในวันนี้ทางคลินิกเราจะมาพูดถึงการจัดฟันแบบใสที่ช่วยส่งเสริมสุขภาพช่องปากและฟัน หลายคนอาจจะสงสัยว่าการจัดฟันแบบใสนั้น ดีกว่าการจัดฟันแบบทั่วไปอย่างไร แต่หลายคนก็คงทราบแล้ว  และวันนี้เราจะมาตอบคำถามในเรื่องของการส่งเสริมสุขภาพช่องปากและฟันด้วยการจัดฟันแบบใส ที่หลายคนอาจจะสงสัยว่า มีประโยชน์อย่างไร แตกต่างจากการจัดฟันแบบอื่นอย่างไร


สำหรับการจัดฟันแบบใสนั้น มีข้อดีหลายข้อ หนึ่งในนั้นคือ ช่วยส่งเสริมในเรื่องของสุขภาพ ทำให้ผู้เข้ารับการรักษามีสุขภาพช่องปากและฟันที่ดี แถมยังช่วยแก้ไขปัญหาฟันไม่ว่าจะเป็น ฟันซ้อนเก ฟันห่าง ฟันเอียง ช่วยให้ผู้เข้ารับการรักษามีฟันที่เรียงตัวกันอย่างสวยงามเป็นธรรมชาติ มีความมั่นใจเวลายิ้ม และพูดคุยพบปะผู้คนได้อย่างเต็มที่ โดยไม่ต้องคำนึงถึงเครื่องมือการจัดฟันที่อยู่ภายในช่องปาก ลดปัญหาเกี่ยวกับการออกเสียง


อย่างไรก็ตาม การจัดฟันแบบใส ถือว่าได้มีการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในการรักษา แทบทุกขั้นตอน ไม่ว่าจะเป็นขั้นตอนการวางแผนการรักษา เพราะทันตแพทย์จะใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ซึ่งแสดงแผนการรักษาแบบสามมิติ ตามที่ทันตแพทย์ได้ทำการวางแผนไว้ ซึ่งสามารถบอกได้ถึงการเคลื่อนตัวของฟันของผู้เข้ารับการรักษา และระยะเวลาในการจัดฟัน ให้การเคลื่อนฟันเป็นไปตามตำแหน่งในช่วงเวลาที่เหมาะสมตามที่ทันตแพทย์กำหนด การจัดฟันแบบใสจะทำให้สุขภาพฟันของผู้เข้ารับการรักษาแข็งแรง มีสุขภาพดีขึ้น ยังช่วยทำให้มั่นใจได้ว่า ฟันจะถูกจัดให้เหมาะสมกับสุขภาพปากด้วย


นอกจากนี้ ยังช่วยทำให้ผู้เข้ารับการรักษาสามารถบดเคี้ยวอาหารได้มีประสิทธิภาพ ป้องกันการเกิดปัญหาในเรื่องของสุขภาพโดยรวม เพราะส่วนใหญ่แล้ว ผู้ที่เข้ารับการจัดฟันแบบทั่วไปที่ใส่เหล็กจัดฟันจะมีปัญหาในเรื่องของการบดเคี้ยวอาหาร ซึ่งต้องบอกว่า การจัดฟันแบบใส สามารถแก้ๆขปัญหาเหล่านี้ได้อย่างดีเลยทีเดียว ทางคลินิกเรามีทีมทันตแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญที่คอยให้คำปรึกษาในเรื่องของสุขภาพช่องปากและฟัน สามารถติดต่อขอรับคำแนะนำได้ ทางเรายังมีบริการการจัดฟันแบบใส และยังรวมไปถึงการบริการทางด้านทันตกรรมทุกรูปแบบ เพื่อให้ทุกคนได้มารับบริการได้อย่างสะดวก

10
พูดคุยเรื่องทั่วไป / หมอประจำบ้าน: หูด (Warts)
« เมื่อ: วันที่ 24 กันยายน 2025, 14:59:45 น. »
หมอประจำบ้าน: หูด (Warts)

หูด เป็นเนื้องอกชนิดไม่ร้าย (benign) ของผิวหนัง เป็นโรคที่พบได้บ่อยมากในเด็กวัยเรียน ในผู้ใหญ่ก็เป็นได้ แต่จะพบได้น้อยในคนอายุมากกว่า 45 ปีขึ้นไป

หูดมีหลายชนิด อาจมีขนาดแตกต่างกันไป ขึ้นกับตำแหน่งที่เป็น อาจขึ้นเดี่ยว ๆ หรือหลายอันก็ได้ มักขึ้นที่มือ เท้า ข้อศอก ข้อเข่า ใบหน้า ฝ่ามือฝ่าเท้า อาจขึ้นตามผิวหนังส่วนอื่น ๆ รวมทั้งที่อวัยวะเพศ

ส่วนมากจะยุบหายได้เองตามธรรมชาติ (แม้จะไม่ได้รับการรักษา) ภายหลังที่เป็นอยู่หลายเดือน บางรายอาจเป็นอยู่เป็นปี ๆ กว่าจะยุบหาย เมื่อหายแล้วอาจกลับเป็นใหม่ได้อีก

สำหรับหูดที่อวัยวะเพศขอแยกกล่าวไว้ใน "โรคหงอนไก่"

สาเหตุ

เกิดจากการติดเชื้อไวรัสที่มีชื่อว่า เอชพีวี (HPV ซึ่งย่อมาจาก human papilloma virus) ซึ่งมีมากกว่า 70 ชนิด เมื่อเชื้อไวรัสแทรกซึมเข้าไปในเซลล์ผิวหนังก็จะเกิดการแบ่งตัวอย่างรวดเร็ว จนกลายเป็นหูดงอกออกจากผิวหนังส่วนที่ปกติ

หูดสามารถติดต่อโดยการสัมผัสถูกคนที่เป็นหูดโดยตรง ผิวหนังที่มีบาดแผลหรือรอยถลอกจะติดเชื้อและกลายเป็นหูดได้ง่ายกว่าผิวที่ปกติ ระยะฟักตัว 2-18 เดือน

อาการ

หูดธรรมดา (common warts) จะมีลักษณะเป็นตุ่มกลมแข็ง ผิวหยาบ ออกเป็นสีเทา ๆ เหลือง ๆ หรือน้ำตาล ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 2-10 มม. มักจะขึ้นตรงบริเวณที่ถูกเสียดสีง่าย (เช่น นิ้วมือ นิ้วเท้า ข้อศอก ข้อเข่า ใบหน้า หนังศีรษะ เป็นต้น) และอาจแพร่กระจายไปยังส่วนอื่น ๆ ของร่างกาย

หูดที่เป็นที่ฝ่ามือ ฝ่าเท้า จะมีลักษณะเป็นไตแข็ง ๆ หยาบ ๆ แต่จะแบนราบเท่าระดับผิวหนังที่ปกติ เพราะมีแรงกดขณะเดินหรือใช้งาน ลักษณะคล้าย ๆ ตาปลา แต่จะแยกกันได้ตรงที่ถ้าใช้ใบมีดฝานหูดบริเวณผิวบน ๆ ของหูดจะเห็นมีจุดดำ ซึ่งเป็นจุดเลือดออกเก่า ๆ ที่แข็งตัวแล้ว

หูดที่เป็นติ่ง (filiform warts) จะมีลักษณะเป็นติ่งเนื้อแข็งยาวคล้ายนิ้วมือเล็ก ๆ ยื่นจากผิวหนัง มักขึ้นที่หนังตา ใบหน้า ลำคอ หรือริมฝีปาก


ภาวะแทรกซ้อน

หูดเป็นโรคที่ไม่มีอันตรายแต่อย่างใด นอกจากทำให้แลดูน่าเกลียดน่ารำคาญ หรืออาจทำให้ผู้ป่วยรู้สึกเป็นปมด้อย ขาดความเชื่อมั่นในตัวเอง   

บางรายอาจมีอาการปวดได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเป็นหูดที่ฝ่าเท้า เวลาเดินลงน้ำหนักแรง ๆ อาจทำให้ปวดเดินไม่ถนัดได้


การวินิจฉัย

แพทย์จะทำการวินิจฉัยจากการตรวจพบรอยโรค และการนำตัวอย่างเนื้อเยื่อไปตรวจทางห้องปฏิบัติการ

การรักษาโดยแพทย์

ในรายที่มีอาการเล็กน้อย จะให้สังเกตดูอาการ บางรายอาจหายเองได้ภายใน 2 ปี แต่ก็อาจเกิดขึ้นใหม่ได้อีก

  ในรายที่มีอาการมาก รู้สึกรำคาญน่าเกลียด หรือเจ็บปวด แพทย์จะให้การดูแลรักษา ดังนี้

1. หูดที่ฝ่าเท้า ใช้ปลาสเตอร์ที่มีกรดซาลิไซลิกชนิด 40% ปิด โดยฝานหูดจนมีเลือดซิบ แล้วใช้ปลาสเตอร์ดังกล่าวปิด พอครบ 1 สัปดาห์ก็ทำการฝานหูดซ้ำอีกครั้ง แล้วปิดปลาสเตอร์ต่อไป ทำเช่นนี้ทุกสัปดาห์จนกว่าจะหาย หรืออาจใช้ยากัดตาปลาหรือหูดซึ่งมีกรดซาลิไซลิกผสมทาที่ตัวหูดทุกวัน ยาจะค่อย ๆ กัดเนื้อหูดให้หลุดออก ซึ่งอาจต้องใช้เวลาประมาณ 3 เดือน

2. หูดที่เป็นติ่ง ให้พ่นด้วยยาชา แล้วใช้กรรไกรตัด หรือใช้ไฟฟ้าจี้และขูดออก (electrodessication)

3. หูดที่เป็นตุ่มหรือไตขนาดใหญ่ แพทย์จะทำการผ่าตัดและขูดออก (อาจใช้ไฟฟ้าจี้ร่วมด้วยหรือไม่ก็ได้) ซึ่งอาจใช้เวลา 4 สัปดาห์กว่าแผลจะหายดี หรือไม่ก็อาจรักษาโดยใช้กรดซาลิไซลิกชนิด 10% และกรดแล็กติกชนิด 10% ในคอลลอยเดียนเบสทา หรือทาด้วยกรดไตรคลอโรอะซิติก (trichloroacetic acid) ชนิด 30-50%

หรือใช้ไนโตรเจนเหลว (liquid nitrogen) หรือคาร์บอนไดออกไซด์แข็ง (solid CO2) ในการรักษาหูด โดยจี้ทุก ๆ 2 สัปดาห์ เป็นเวลา 3 เดือน หรือใช้แสงเลเซอร์หรือเครื่องจี้ไฟฟ้าในการรักษา

ในรายที่ดื้อต่อการรักษาด้วยวิธีดังกล่าว แพทย์อาจให้การรักษาโดยให้ผู้ป่วยกินไซเมทิดีนในขนาดสูง (30-40 มก./กก./วัน) ซึ่งมีฤทธิ์เพิ่มภูมิคุ้มกัน โดยให้นาน 6-8 สัปดาห์ จะช่วยให้หูดยุบหายหมดได้ประมาณร้อยละ 60-70


การดูแลตนเอง

หากสงสัย เช่น ผิวหนังมีตุ่มแข็งหรือมีติ่งเนื้อแข็งยื่นจากผิวหนัง หรือฝ่ามือฝ่าเท้ามีไตแข็ง ๆ หยาบ ๆ แต่แบนราบ ควรปรึกษาแพทย์


เมื่อตรวจพบว่าเป็นโรคหูด ควรดูแลตนเอง ดังนี้

    รักษา และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ 
    ติดตามรักษากับแพทย์ตามนัด


ควรกลับไปพบแพทย์ ถ้ามีลักษณะข้อใดข้อหนึ่ง ดังต่อไปนี้

    หลังการรักษาแล้วหากมีอาการปวด แสบ คัน พุเป็นตุ่มน้ำ หรือบวมที่บริเวณรอยโรคไม่ทุเลา ใน 1-2 สัปดาห์
    มีหูดเกิดขึ้นใหม่


การป้องกัน

    หลีกเลี่ยงการสัมผัสถูกเนื้อหูดของผู้อื่น
    หลีกเลี่ยงการใช้สิ่งของเครื่องใช้ (เช่น ผ้าเช็ดหน้า ผ้าเช็ดตัว รองเท้า ถุงเท้า) ร่วมกับคนที่เป็นหูด
    ป้องกันการแพร่กระจายเชื้อหูดไปบริเวณอื่นของร่างกาย โดยหลีกเลี่ยงการสัมผัส หรือแกะเกาหูดของตัวเอง และเมื่อสัมผัสถูกหูดควรล้างมือด้วยน้ำกับสบู่เมื่อสัมผัสทันที
    หมั่นล้างเท้าให้สะอาดและเช็ดให้แห้ง และเปลี่ยนถุงเท้าที่ใส่ทุกวันเพื่อป้องกันหูดที่ฝ่าเท้า
    ระมัดระวังอย่าให้เกิดบาดแผลที่ผิวหนัง เช่น ระมัดระวังการโกนหนวด หลีกเลี่ยงการกัดแทะเล็บเป็นต้น เพื่อป้องกันไม่ให้เชื้อหูดเข้าทางบาดแผล
    หมั่นรักษาสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงด้วยการออกกำลังกาย กินอาหารครบ 5 หมู่ที่สมสัดส่วน  และนอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ เพื่อให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกันที่แข็งแรง


ข้อแนะนำ

หูดเกิดจากเชื้อไวรัสเอชพีวี ซึ่งสามารถติดต่อได้ง่ายโดยการสัมผัสและทางเพศสัมพันธ์ ไม่มีการรักษาที่จำเพาะ (ไม่มียาที่ทำลายเชื้อไวรัสกลุ่มนี้) ส่วนใหญ่มักเป็นไม่รุนแรง และหายได้เองภายใน 2 ปี แต่อาจเกิดขึ้นได้ใหม่ การรักษาสุขภาพให้มีภูมิคุ้มกันโรคที่แข็งแรงมีส่วนป้องกันและรักษาโรคนี้ได้ การรักษามุ่งที่ทำลายเนื้อหูดให้หมดไปด้วยวิธีต่าง ๆ ซึ่งแพทย์จะเลือกใช้ตามสภาพของโรคที่เป็น และสภาพร่างกายของผู้ป่วย

11
จัดฟันบางนา: จัดฟันแบบใส ช่วยให้ฟันมีประสิทธิภาพ คุ้มค่าเกินคาด

การจัดฟันแบบใส เป็นการรักษาทางทันตกรรมที่ได้รับความนิยมมาก เนื่องจากเป็นการรักษาที่มีประสิทธิภาพ ทำให้ผู้เข้ารับการรักษามีฟันที่สวยเป็นธรรมชาติ สร้างความมั่นใจ สร้างรอยยิ้มได้อย่างสวยงาม มีเสน่ห์ เชื่อว่าหลายคนที่กำลังจะเข้ารับการจัดฟันไม่ว่าจะเป็นรูปแบบใด อาจจะต้องศึกษาข้อมูลและรายละเอียดต่างๆก่อนเข้าพบทันตแพทย์เพื่อเข้ารับคำปรึกษาจากทันตแพทย์จัดฟัน ซึ่งการจัดฟันแบบใส ก็เป็นการจัดฟันอีกรูปแบบหนึ่งที่ต้องบอกว่า ตอบโจทย์ไลพ์สไตล์ของคนในยุคปัจจุบันได้เป็นอย่างดี สำหรับการจัดฟันแบบใส

หลายคนมองว่าค่าใช้ค่าใช้จ่ายในการรักษาที่สูงกว่าการจัดฟันแบบทั่วไป เพราะด้วยการจัดฟันแบบใส มีการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการรักษาตั้งแต่ขั้นตแผนการวางแผนการรักษาไปจนถึงการรักษาจนเสร็จสิ้นการรักษา ดังนั้น การจัดฟันแบบใส ถึงแม้ว่าจะต้องใช้ค่าใช้จ่ายในการรักษาสูง แต่ผลการรักษาและประสิทธิภาพ รับรองว่า คุ้มค่าเกินราคาแน่นอน อาจจะสงสัยว่า การจัดฟันแบบใส มีประสิทธิภาพอย่างไร ต้องบอกว่า การรักษาด้วยการจัดฟันแบบใส เป็นการรักษาที่จะทำให้ฟันของเรามีประสิทธิภาพในการใช้งานมากยิ่งขึ้น ทำให้สามารถบดเคี้ยวอาหารได้ดี ทำให้ดีต่อสุขภาพโดยรวมของเราด้วย

วันนี้เราจะมาพูดถึงการจัดฟันแบบใส ที่ช่วยทำให้ฟันของเรามีประสิทธิภาพในการทำงานมากยิ่งขึ้น ช่วยทำให้เราสามารถรับประทานอาหารได้อย่างเต็มที่ แถมยังช่วยทำให้มีรอยยิ้มที่สวยงามเป็นธรรมชาติอีกด้วย ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า การจัดฟันแบบใส เป็นการรักษาด้วยการจัดฟันที่มีความสะดวกสบายต่อการใช้ชีวิตประจำวันของเรา ตั้งแต่ การรับประทานอาหาร ไปจนถึงขั้นตอนการทำความสะอาดช่องปากและฟัน

ด้วยการจัดฟันแบบใส จะช่วยทำให้ฟันของเราเรียงตัวอย่างสวยงาม เป็นระเบียบมากยิ่งขึ้น แน่นอนว่าจะส่งผลทำให้การรับประทานอาหาร การบดเคี้ยวอาหารเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ ถึงแม้ว่าการจัดฟันแบบใส จะสามารถถอดเครื่องมือการจัดฟันแบบใสได้ขณะรับประทานอาหาร ทำให้รับประทานอาหารได้อย่างหลากหลาย ส่งผลให้ผู้เข้ารับการจัดฟันได้รับประทานอาหารที่ชื่นชอบ และทำให้มีการบดเคี้ยวอาหารที่ดีขึ้นด้วย เพราะการที่ฟันของเราเรียงตัวอย่างระเบียบเรียบร้อย จะทำให้มีประสิทธิภาพในการรับประทานอาหาร ช่วยทำให้สามารถทำความสะอาดได้อย่างเต็มที่ ทั่วถึงมาก

ยิ่งขึ้นนั่นเอง นี่จึงเป็นการแสดงให้เห็นว่า การเข้ารับการจัดฟันแบบใส จะช่วยทำให้ฟันของเราสามารถใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ และคุ้มค่ากับเงินที่เราเสียไปอย่างแน่นอน เรียกว่าได้ผลดีเกินคาดเลยทีเดียว หากใครสนใจเข้ารับการรักาด้วยการจัดฟันแบบใส สามารถติดต่อขอรับคำแนะนำได้ที่คลินิกเพราะทางเรามีทีมทันตแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ มีประสบการณ์ทางด้านทันตกรรมมาอย่างยาวนาน ทำให้เราได้รับการการันตีว่า การบริการของทางคลินิก มีความน่าเชื่อถือ และสามารถเห็นผลได้อย่างชัดเจน

ทั้งนี้คลินิกของเรายังได้รับการรับรองสูงสุดจาก Invisalign เพื่อเป็นการการันตีอีกขั้นหนึ่งว่า คลินิกของเรามีมาตรฐานตามระบบสากล มีความน่าเชื่อถือ มีทันตแพทย์ที่ผ่านการอบรมขั้นสูงจาก Invisalign จึงทำให้มั่นใจได้ว่า หากเข้ารับการรักษาด้วยการจัดฟันแบบใสจากทางคลินิกคุณจะมีฟันที่เรียงตัวเป็นระเบียบ มีฟันที่สวยงาม สามารถใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ แถมยังมีสุขภาพช่องปากและฟันที่ดีขึ้นได้อย่างแน่นอน

12
หมอประจำบ้าน: เยื่อหุ้มปอดอักเสบ (Pleuritis/Pleurisy)

เยื่อหุ้มปอดอักเสบ หมายถึง การอักเสบของเนื้อเยื่อที่อยู่รอบ ๆ เนื้อปอด (pleura) ซึ่งอาจเกิดจากสาเหตุต่าง ๆ และมีความรุนแรงมากน้อยแตกต่างกันไป ผู้ป่วยจะมีลักษณะอาการที่เด่นชัดคือ เจ็บแปลบที่บริเวณหน้าอก (ตรงตำแหน่งที่เยื่อหุ้มปอดอักเสบ) คล้ายเข็มแทงเฉพาะเวลาหายใจเข้าลึก ๆ ไอหรือจาม ทั้งนี้เนื่องจากมีการยืดตัวของเยื่อหุ้มปอดที่กำลังอักเสบ เราเรียกอาการเจ็บหน้าอกในลักษณะนี้ว่า อาการเจ็บหน้าอกจากเยื่อหุ้มปอด (pleuritic pain)


สาเหตุ

เกิดจากการติดเชื้อไวรัส เช่น กลุ่มเชื้อไวรัสที่ทำให้เกิดโรคติดเชื้อของทางเดินหายใจ (พบในคนหนุ่มสาวที่สุขภาพทั่วไปแข็งแรงดี อาการมักไม่รุนแรงและหายได้เองภายใน 3-5 วัน) ไวรัสกลุ่มค็อกแซกกีบี (coxsackie B virus ทำให้เกิดโรค pleurodynia หรือ Bornholm disease ผู้ป่วยจะมีอาการไข้สูง เจ็บหน้าอกนานครั้งละ 15-30 นาที อาจมีอาการหายใจเร็ว มักเป็นอยู่นาน 2-4 วัน)

บางรายอาจเกิดจากปอดอักเสบ วัณโรคปอด มะเร็งปอด ฝีปอด (lung abscess) เยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ (pericarditis) ซึ่งมีการอักเสบลุกลามมาที่เยื่อหุ้มปอด สาเหตุเหล่านี้จำเป็นต้องส่งโรงพยาบาลเพื่อตรวจวินิจฉัยและให้การรักษาอย่างรวดเร็ว

บางรายอาจเกิดจากสาเหตุรุนแรง เช่น ภาวะสิ่งหลุดอุดตันหลอดเลือดแดงปอด

นอกจากนี้ยังอาจเกิดจากภาวะมีน้ำหรือหนองในโพรงเยื่อหุ้มปอด ภาวะปอดทะลุ ฝีตับอะมีบา กระดูกซี่โครงหักตำถูกเยื่อหุ้มปอด เป็นต้น


อาการ

มักมีอาการเจ็บแปลบเพียงชั่วไม่กี่วินาทีตรงหน้าอกซีกใดซีกหนึ่ง เป็นบางครั้งบางคราวเฉพาะเวลาหายใจเข้าลึก ๆ เวลาไอหรือจามถ้ากลั้นลมหายใจหรือหายใจค่อย ๆ จะไม่มีอาการแต่อย่างใด

ถ้าเกิดจากไวรัสที่มีอาการไม่รุนแรง ผู้ป่วยมักมีอาการทั่วไปเป็นปกติดี สามารถทำงานได้ และมักมีอาการเพียง 2-3 วัน (มักไม่เกิน 5 วัน) ก็หายได้เอง

ถ้าเกิดจากสาเหตุอื่น ๆ อาจมีไข้สูง เจ็บหน้าอกรุนแรงหรือตลอดเวลา เป็นลม หายใจหอบ น้ำหนักลดหรือไอเป็นเลือดร่วมด้วย


ภาวะแทรกซ้อน

ขึ้นกับสาเหตุที่ตรวจพบ

ถ้าเกิดจากการติดเชื้อไวรัส มักไม่มีภาวะแทรกซ้อนอะไร

ถ้าเกิดจากปอดอักเสบ วัณโรคปอด มะเร็งปอด ภาวะมีน้ำหรือหนองในโพรงเยื่อหุ้มปอด  ภาวะปอดทะลุ ฝีตับอะมีบา ก็อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนของโรคเหล่านี้ได้


การวินิจฉัย

แพทย์จะวินิจฉัยจากอาการ ประวัติการเจ็บป่วย และการตรวจร่างกายเป็นหลัก

ในรายที่เป็นไม่รุนแรง การตรวจร่างกายมักไม่พบสิ่งที่ผิดปกติ รวมทั้งการใช้เครื่องฟังตรวจปอดและหัวใจก็เป็นปกติ

ในรายที่มีสาเหตุเกี่ยวกับปอดหรือสาเหตุที่ร้ายแรงอาจตรวจพบอาการอื่น ๆ เพิ่มเติม เช่น ไข้สูง หอบ ช็อก ใช้เครื่องฟังตรวจปอดอาจมีเสียงกรอบแกรบ (crepitation) หรือเสียงหายใจค่อยเนื่องจากภาวะมีน้ำหรือหนองในโพรงเยื่อหุ้มปอด เป็นต้น

ในรายที่จำเป็นต้องวินิจฉัยโรคให้แน่ชัด แพทย์จะทำการตรวจพิเศษเพิ่มเติม เช่น เอกซเรย์ปอด ตรวจเลือด ตรวจเสมหะ เป็นต้น


การรักษาโดยแพทย์

แพทย์จะให้การดูแลรักษา ดังนี้

1. ถ้าเจ็บแปลบเพียงชั่วไม่กี่วินาทีเป็นครั้งคราว ไม่มีอาการไข้ และหายใจเป็นปกติ แพทย์จะให้ยาต้านอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ ถ้าไอมากและทำให้เจ็บหน้าอก ให้กินยาระงับการไอทุก 8 ชั่วโมง ถ้าไม่ดีขึ้นภายใน 7 วัน ควรส่งเอกซเรย์และตรวจพิเศษเพิ่มเติมอื่น ๆ

2. ถ้าเจ็บหน้าอกอย่างรุนแรง ช็อก มีไข้สูง ไอเป็นเลือด น้ำหนักลด หายใจหอบเหนื่อยหรือแน่นอึดอัด ใช้เครื่องฟังตรวจปอดมีเสียงกรอบแกรบ หรือเสียงหายใจค่อย แพทย์จะรับตัวไว้ในโรงพยาบาลทำการตรวจหาสาเหตุให้แน่ชัด และให้การรักษาไปตามสาเหตุที่พบ

ผลการรักษา ขึ้นกับโรคต้นเหตุ ซึ่งมีความร้ายแรงแตกต่างกัน ส่วนใหญ่หากได้รับการรักษาตั้งแต่มีอาการระยะแรก ก็มักจะปลอดภัย หรือหายเป็นปกติได้ แต่ถ้าได้รับการรักษาที่ล่าช้า หรือเกิดจากภาวะร้ายแรง การรักษาก็จะไม่ได้ผลเท่าที่ควร หรืออาจเป็นอันตรายถึงเสียชีวิตได้


การดูแลตนเอง

หากมีอาการเจ็บแปลบเวลาหายใจเข้าลึก ๆ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุ รักษาและปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์

ในรายที่แพทย์ให้ยากลับไปกินที่บ้าน ถ้ากินยาแล้วสงสัยเกิดผลข้างเคียงจากยา (เช่น มีลมพิษ ผื่นคัน ตุ่มพุพอง ตาบวม ปากบวม คลื่นไส้ อาเจียน หรือมีอาการผิดปกติอื่น ๆ) ควรกลับไปพบแพทย์ก่อนนัด


การป้องกัน

ให้การป้องกันตามโรคที่เป็นสาเหตุ เช่น ปอดอักเสบ วัณโรคปอด มะเร็งปอด เป็นต้น


ข้อแนะนำ

1. เยื่อหุ้มปอดอักเสบมีสาเหตุและความรุนแรงต่าง ๆ กัน แพทย์จำเป็นต้องซักถามอาการและตรวจร่างกายอย่างถี่ถ้วน ก่อนจะวินิจฉัยว่าเป็นภาวะที่ไม่รุนแรงและให้การรักษาตามอาการ และทำการติดตามอาการของผู้ป่วยอย่างใกล้ชิด ถ้าไม่ดีขึ้นหรือสงสัยมีความผิดปกติก็จำเป็นต้องส่งตรวจพิเศษเพิ่มเติม

2. อาการเจ็บแปลบที่หน้าอกเวลาหายใจเข้าลึก ๆ ไอหรือจาม นอกจากเยื่อหุ้มปอดอักเสบแล้ว ยังอาจเกิดจากภาวะกระดูกซี่โครงหัก (มักมีประวัติได้รับบาดเจ็บ) หรืออาการเจ็บกล้ามเนื้อหรือกระดูกบริเวณหน้าอก ผู้ป่วยกลุ่มนี้เวลาเอี้ยวตัว หรือกดถูกบริเวณที่ปวดจะมีอาการเจ็บมากขึ้น ถ้าให้การรักษาด้วยยาบรรเทาปวด หรือยาต้านอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์แล้วไม่ดีขึ้นใน 7 วัน หรือเจ็บรุนแรง หรือสงสัยเกิดจากสาเหตุอื่น ๆ ก็จะทำการตรวจพิเศษเพิ่มเติมเพื่อหาสาเหตุให้แน่ชัด

13
รถกระบะรับจ้างขนของจังหวัดเชียงใหม่ ใกล้ฉัน และคนยกของ ยินดีบริการ

รถกระบะรับจ้างจังหวัดเชียงใหม่ ใกล้ฉัน ราคาถูก พร้อมบริการ

ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่แน่นอนว่ามีการใช้บริการในด้านการให้บริการงาน รถรับจ้างขนของจังหวัดเชียงใหม่ เป็นจำนวนมากโดยเฉพาะ รถกระบะรับจ้างจังหวัดเชียงใหม่ ใกล้ฉัน ซึ่งถือว่าเป็นรถที่มีผู้ใช้บริการให้ความนิยมและชื่นชอบเป็นอย่างมาก ด้วยขนาดตัวรถที่ไม่ใหญ่สามารถ ที่จะวิ่งเข้าออกในพื้นที่เขตในเมืองจังหวัดเชียงใหม่โดยเฉพาะแถวถนนนิมมาน ที่มีสภาพการจราจรที่ติดขัดได้เป็นอย่างดี มีขนาดเล็กและมีความคล่องตัวสูงและที่สำคัญราคาค่าบริการของ รถกระบะรับจ้างจังหวัดเชียงใหม่ราคาถูก

หลายหลายคนสามารถที่จะจ้างรถขนของได้โดยใช้งบประมาณเพียงน้อยนิด จึงทำให้คนชาวจังหวัดเชียงใหม่ชื่นชอบการเรียกใช้บริการ รถกระบะรับจ้าง เป็นอย่างมากโดยเฉพาะในเขตพื้นที่ในเมืองท่านสามารถค้นหา รถกระบะรับจ้างจังหวัดเชียงใหม่ ใกล้ฉัน ได้โดยง่ายมีจุดให้บริการที่มากมายซึ่ง ขนส่งของเราได้ให้บริการรถกระบะรับจ้างมาอย่างยาวนานและพร้อมที่จะเข้าไปให้บริการลูกค้าทุกคนสนใจเรียกใช้บริการ ขนย้ายหอพัก ขนย้ายคอนโดจังหวัดเชียงใหม่ หรือแม้กระทั่งงานให้บริการรับจ้างขนของย้ายบ้านจังหวัดเชียงใหม่ เราให้ราคาที่ไม่แพงสนใจสอบถามรายละเอียดได้ทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง

   
รถรับจ้างย้ายหอจังหวัดเชียงใหม่ ราคาเท่าไหร่

จังหวัดเชียงใหม่ถือว่าเป็นจังหวัดที่มีนักท่องเที่ยวมากมายรวมไปถึงสถานศึกษาที่เป็นทั้งมหาวิทยาลัยหรือแม้กระทั่งระดับมัธยมศึกษาที่มีนักศึกษามากมาย และนักท่องเที่ยวมากมายที่เข้ามาใช้บริการห้องพัก คอนโด จำนวนมากมายจึงเกิดการเรียกใช้บริการ รถรับจ้างย้ายหอจังหวัดเชียงใหม่ เป็นจำนวนมากบางครั้งนักศึกษาต้องการที่อยากจะเปลี่ยนหอหรือย้ายที่อยู่ใหม่ก็จะมีการเรียกใช้ รถรับจ้างย้ายหอจังหวัดเชียงใหม่ ราคาเท่าไหร่ อยู่บ่อยครั้ง

แม้กระทั่งคนที่ทำงานต้องการอยากจะย้ายที่อยู่ไปต่างจังหวัด ก็สามารถเรียกใช้ บริการรถรับจ้างย้ายหอจังหวัดเชียงใหม่ราคาถูก ได้อย่างสบายเพราะที่นี่เราให้บริการรถรับจ้างทุกชนิดทุกประเภทไม่ว่าจะเป็น รถกระบะรับจ้างย้ายหอเชียงใหม่ รถสี่ล้อรับจ้างย้ายหอเชียงใหม่ รถหกล้อรับจ้างย้ายหอย้ายคอนโดเชียงใหม่ เป็นต้น
สำหรับท่านใดที่ต้องการอยากจะให้พนักงานของเราทำการแพ็คสินค้าให้ด้วยก็สามารถสอบถามข้อมูลรายละเอียดจำนวนคนยกของกับเราได้เราพร้อมให้บริการทั้งรถขนของและพนักงานยกสินค้าด้วยไปพร้อมกัน

   
รถขนของจังหวัดเชียงใหม่ไปต่างจังหวัด

เดี๋ยวนี้การให้บริการขนย้ายของไปต่างจังหวัด หรือย้ายที่อยู่ไปไกลจากพื้นที่เดิมได้รับความนิยมและมีการเรียกใช้บริการในลักษณะดังกล่าวอยู่บ่อยครั้งไม่ว่าจะเป็นการขนย้ายของไปในจังหวัดในเขตภาคเหนือ หรือย้ายไปภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคอีสาน หรือภาคใต้ ก็มีจำนวนผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้นในทุกๆปี ส่วนมากแล้วการขนย้ายของโดยใช้ รถขนของจังหวัดเชียงใหม่ไปต่างจังหวัด นั้นจะเป็นลักษณะของการให้บริการรับจ้างขนของย้ายบ้าน ขนย้ายไซด์งานก่อสร้าง ขนย้ายเฟอร์นิเจอร์ ขนย้ายสินค้าอุปโภคบริโภคจังหวัดเชียงใหม่ไปต่างจังหวัด

ซึ่งผู้ใช้บริการจะมีการวางแผนการขนย้ายของล่วงหน้าประมาณ3ถึง5วัน เพราะว่าจะต้องเตรียมในเรื่องของการจัดเก็บสินค้าการแพ็คสินค้าและส่วนมากจะมีการขอพนักงานคนยกสินค้าเพิ่มอย่างน้อย3ถึง4ท่าน ซึ่ง ขนส่งของเราก็ให้บริการทั้งรถรับจ้างและคนยกสินค้าไปพร้อมกันการ บริการที่ง่ายและสะดวกรวดเร็วโดยที่ลูกค้าไม่จำเป็นต้องไปหาคนยกจากข้างนอก เพียงแค่โทรหาเราและสอบถามข้อมูลราคาค่าบริการรถขนของไปต่างจังหวัดและคนยกของเราพร้อมให้บริการท่านอย่างสะดวกสบาย

14
รถกระบะรับจ้างจังหวัดพิจิตร บริการรถกระบะขนย้ายของ พร้อมทีมงานยกของ

การบริการรถรับจ้างขนของ ด้วย รถกระบะรับจ้างจังหวัดพิจิตร เป็นรูปแบบการขนส่งที่มีปริมาณผู้ใช้บริการเป็นจำนวนสูงสุดและเป็นรูปแบบของการขนส่งประเภทหลักๆที่หล่อเลี้ยงสังคมมาโดยตลอดด้วยการบริการขนส่งทางบกการกระทำได้โดยการใช้ รถกระบะรับจ้างจังหวัดพิจิตร รถกระบะ 4 ล้อ รับจ้างรถ 6 ล้อ รับจ้างรถสิบล้อ รับจ้างรถพ่วง รับจ้างรถเครนรับจ้างรถปิคอัพ รับจ้างและรถเฮี๊ยบ รับจ้างซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นยานพาหนะในการเคลื่อนย้ายสินค้าอาจกล่าวได้ว่าสินค้าทุกชนิดนั้นสามารถขนส่งได้โดยการขนส่งทางบกเป็นหลักข้อดีที่สุดของการขนส่งนั้นก็จะได้แก่คุณลักษณะที่เรียกได้ว่าเป็นการบริการนำสินค้าไปส่งถึงที่บ้านโดยที่ ผู้ผลิตนั้นได้รับความสะดวกสบายมากกว่ารูปแบบการขนส่งอื่นๆด้วยเช่นกันเพราะในปัจจุบันนี้ประเทศไทยของเรามีเครือข่ายค่อนข้างดีมีทั้งในเขตพื้นที่ตามจังหวัดต่างๆและการขนส่งจะเข้าถึงได้ทั่วทุกอำเภอของ 77 จังหวัดในประเทศไทยนั้นเองค่ะ รถกระบะรับจ้างพิจิตร บริการรับงานขนย้ายบ้าน ขนย้ายคอนโด ขนย้ายหอพักนักศึกษา ขนย้ายอพาร์ทเม้นท์ ขนย้ายสำนักงาน ขนย้ายวัสดุอุปกรณ์ก่อสร้าง ขนย้ายมอเตอร์ไซค์ ขนย้ายเฟอร์นิเจอร์ ขนย้ายไซต์งานคนงานออกบูธและบริการขนย้ายอื่นๆทั่วไป

ตามที่ลูกค้านั้นต้องการและเป็นการตอบสนองความต้องการของลูกค้าเราจะสร้างคุณค่าและการนำส่งสินค้าไปยังลูกค้าได้ตามเป้าหมายที่กำหนดซึ่งธุรกิจนี้ถือว่าเป็นสิ่งสำคัญในการจัดวางระบบการขนส่งการขนย้ายสินค้าด้วยการบริการรถรับจ้างขนของหรือรถกระบะรับจ้างจังหวัดพิจิตรทีมงานบริการรถกระบะรับจ้างขนของของเราจะมีการติดตามความเคลื่อนไหวความต้องการและพฤติกรรมของผู้บริโภคอยู่ตลอดเวลาและสม่ำเสมอโดยจะต้องสามารถรับรู้ได้รวดเร็วเมื่อลูกค้าเปลี่ยนความต้องการแล้วเราสามารถที่จะส่งมอบถึงคุณค่าแห่งความต้องการนั้นได้เช่น ลูกค้าอยากเปลี่ยนจุดหมายปลายทางเราก็สามารถที่จะให้บริการได้ในทันท่วงทีเพื่อเป็นการตอบสนองความต้องการของลูกค้า ทีมงาน ศิริภักดี รถรับจ้างขนของของเรามีการทำงานอย่างเป็นทีมเวิร์คและมีความรอบคอบต่อการทำงาน มีความพร้อมที่จะปฎิบัติหน้าที่ต่างๆตลอด24ชั่วโมง เพราะเราคิดว่าการบริการมีความจำเป็นมากต่อลูกค้า และมีความจำเป็นต่อทีมงานเป็นอย่างมาก สิ่งเหล่านี้เมื่อปฎิบัติด้วยใจรัก ผลลัพธ์ที่ได้ก็จะเกิดจากลูกค้าที่ใช้บริการซึ่งจะมีความประทับใจในการให้บริการรถรับจ้างอีกด้วย เป็นทางเลือกหนึ่งที่ดีและคุ้มค่าต่อการบริการที่สุด


รถกระบะรับจ้างขนของพิจิตร ยินดีบริการขนย้ายของทุกวัน ราคาถูก ปลอดภัย

ไม่ว่าเราจะเลือกใช้บริการ รถกระบะรับจ้าง ในแบบไหนก็ขึ้นอยู่ทุกการตัดสินใจของลูกค้าทุกๆท่านเพราะรถกระบะทุกๆเจ้าก็จะคล้ายๆกันแต่จะต่างกันที่การให้บริการเป็นหลักและราคาบริการรถรับจ้างของเราก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่จะให้ลูกค้าทุกๆท่านใช้บริการรถรับจ้างที่มีราคาถูกเน้นการบริการเป็นหลักเพราะฉะนั้นสำคัญที่สุดคือการให้บริการที่ครบครันไม่ว่าจะเป็นการบริการแพ็คของ การบริการคนยกสินค้าสิ่งเหล่านี้ล้วนมีอิทธิพลเป็นอย่างมากถ้าเราจ้างรถรับจ้างในการขนย้ายสินค้าต่างๆเราก็จะไม่ยุ่งยากอีกต่อไปเพียงแค่แจ้งข้อมูลรายละเอียดข่าวสารว่าเราจะย้ายจากที่ไหนไปที่ไหนและต้องการใช้บริการรถประเภทใดขนย้ายสินค้าชนิดอะไรเพียงเท่านี้ก็จะมีเจ้าหน้าที่คอยประเมินหน้างานและสามารถคิดคำนวณค่าใช้จ่ายได้ทันท่วงทีถ้าหากลูกค้าไม่มีคนยกสินค้าทางทีมงานรถรับจ้างขนของก็ยังมีพนักงานบริการคนยกของในทั่วทุกพื้นที่และในเขตจังหวัดพิจิตรนั้นเองค่ะ

สำหรับเขตพื้นที่ใกล้เคียงในการให้บริการรถกระบะรับจ้างขนของจังหวัดพิจิตร มีดังนี้

    เขตพื้นที่เมืองพิจิตร
    เขตพื้นที่ตะพานหิน
    เขตพื้นที่ทับคล้อ
    เขตพื้นที่บางมูลนาก
    เขตพื้นที่โพทะเล
    เขตพื้นที่โพธิ์ประทับช้าง
    เขตพื้นที่สามง่าม
    เขตพื้นที่วังทรายพูน
    เขตพื้นที่สากเหล็ก
    เขตพื้นที่บึงนาราง
    เขตพื้นที่ดงเจริญ
    เขตพื้นที่วชิรบารมี

รถกระบะรับจ้าง บางท่านอาจจะมีความคิดเห็นต่างกัน เพราะคำว่าคุ้มค่าแปลได้หลายอย่างเช่นรถกระบะรับจ้างราคาถูกรถกระบะรับจ้างที่มีคนยกพร้อมรถกระบะรับจ้างที่มีอุปกรณ์เซฟตี้ครบครันหรือแม้กระทั่งรถรับจ้าง ที่สภาพดีและสะอาด หรืออื่นๆอีกมากมาย ในมุมมองของผู้บริโภคคำว่าคุ้มค่าของรถรับจ้าง มีหลายบริบทแต่สำหรับดิฉัน คิดว่าความคุ้มค่านั้นมาจากการบริการที่ดี อัธยาศัยที่ดีของพนักงานขับรถและพนักงานยกเพราะ ถ้ามีอัธยาศัยที่ดีต่อกันงานและการบริการมักจะออกมาดี รถรับจ้างทั่วไปอาจจะต้องเรียนเรื่องมารยาทเป็นหลักเพราะเป็นหน้าตาของรูปลักษณ์รถรับจ้าง ท่ารถรับจ้างบริการหรือทำหน้าที่ออกมาดีก็จะมีการตอบรับที่ดีของรถรับจ้างมาด้วยสิ่งนี้จะเป็นสิ่งวัด ความคุ้มค่าของการบริการได้ดีที่สุดถ้าราคาถูกแต่บริการไม่ดีก็จะใช้คำว่าคุ้มค่าไม่ได้หรือค่าบริการ ค่อนข้างที่จะสูงแต่บริการเยี่ยมมีคนยกครบครันบริการประทับใจก็ใช้คำว่าคุ้มค่าได้เช่นกันเพราะฉะนั้นการเปรียบเทียบคำว่าคุ้มค่าของรถรับจ้างทั่วไปนั้น จึงมีความหมายแตกต่างกันไป แล้วแต่สถานการณ์

ดังนั้นการบริการรถรับจ้างขนของด้วยทีมงาน ศิริภักดี มีความยินดีเป็นอย่างมากพี่จะคอยช่วยเหลือให้บริการรถกระบะรับจ้างขนของไม่ว่าจะอยู่ในที่จังหวัดใดก็ตามอีกทั้งยังมีบริการเที่ยวเร่งด่วนที่ลูกค้าต้องการขนย้ายไปยังจุดหมายปลายทางอีกที่หนึ่งแบบ ต้องการความเร่งด่วน ทางเราก็มีบริการดีๆเพื่อ support ลูกค้าได้ภายในเวลาที่กำหนดนั่นเองค่ะบริการรถรับจ้างขนของยังคอยให้บริการเที่ยวขากลับที่ราคาพิเศษถูกและคุ้มเวอร์ทุกท่านลองโทรสอบถามเข้ามาได้นะคะเผื่อจะได้เป็นเที่ยวขากลับที่ราคาถูกและบริการคุ้มเวอร์ไม่ว่าจะเป็นเที่ยวปกติราคาก็ถูกเช่นกันค่ะสามารถโทรเข้ามาสอบถามได้

15
พูดคุยเรื่องทั่วไป / โรคไฟลามทุ่ง (Erysipelas)
« เมื่อ: วันที่ 18 กันยายน 2025, 22:47:02 น. »
โรคไฟลามทุ่ง (Erysipelas)

โรคไฟลามทุ่ง (Erysipelas) คือ โรคทางผิวหนังที่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียอย่างรุนแรงในชั้นหนังแท้ (Dermis) ส่วนที่อยู่ตื้น ๆ และท่อน้ำเหลืองใกล้เคียง ซึ่งก่อให้เกิดผื่นแดง อักเสบบวมแดงตามผิวหนัง อาการมักลุกลามอย่างรวดเร็วคล้ายไฟลามทุ่งจึงเป็นที่มาของชื่อโรค และยังจัดเป็นประเภทหนึ่งของโรคเซลล์เนื้อเยื่ออักเสบ (Cellulitis) แต่มีความรุนแรงน้อยกว่า

อาการของโรคไฟลามทุ่ง

ผิวหนังบริเวณที่เกิดการติดเชื้อจะอักเสบ เป็นผื่นหรือปื้นแดง มีขอบนูนแยกออกจากผิวหนังปกติอย่างชัดเจน โดยเฉพาะเวลาที่สัมผัสโดนผิวหนังบริเวณนั้นจะก่อให้เกิดอาการเจ็บปวด บวมแดง และแสบร้อน ผิวหนังจะมีลักษณะคล้ายผิวเปลือกส้มหรืออาจมีเลือดออกใต้ผิวหนัง ทำให้เป็นรอยจ้ำเขียว

การอักเสบของผิวหนังมักเกิดขึ้นตามแขนขาท่อนล่าง แต่บางรายก็พบผื่นแดงบริเวณใบหน้า ซึ่งมักจะลามออกไปทั่วแก้มและจมูกอย่างรวดเร็ว หรือพบว่าผิวหนังบริเวณนั้นเกิดเป็นเส้นสีแดง เนื่องจากมีการอักเสบของท่อน้ำเหลืองในบริเวณใกล้เคียง ผู้ที่มีอาการรุนแรงอาจเกิดแผลพุผอง มีน้ำหนอง หรือเนื้อเยื่อตายบางส่วน นอกจากนี้ ยังพบอาการอื่น ๆ ในระหว่างที่เกิดการอักเสบของผิวหนัง เช่น มีไข้ ครั่นเนื้อครั่นตัว รู้สึกไม่สบายตัว หนาวสั่น

สาเหตุของโรคไฟลามทุ่ง

โรคไฟลามทุ่งเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย เบตา เฮโมไลติก สเตรปโตค็อกคัส กลุ่มเอ (Group A Beta-Hemolytic Streptococcus) ซึ่งโดยปกติแบคทีเรียชนิดนี้อาศัยอยู่บริเวณผิวหนังของคนเราและไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย แต่เมื่อผิวหนังได้รับความเสียหาย เช่น เกิดบาดแผลหรือรอยแตกที่ผิวหนัง รอยแมลงกัด โรคผิวหนังที่ส่งผลให้เกิดรอยแยกบนผิวหนังอย่างโรคน้ำกัดเท้า โรคสะเก็ดเงิน หรือผื่นผิวหนังอักเสบ แผลพุพอง จึงทำให้แบคทีเรียเข้าสู่ร่างกายและก่อให้เกิดการติดเชื้อตามมา

อย่างไรก็ตาม ในบางรายอาจได้รับเชื้อหรือติดเชื้อจากทางอื่นเข้าสู่ร่างกาย เช่น ได้รับเชื้อผ่านทางระบบทางเดินหายใจจากการติดเชื้อที่จมูกหรือลำคอ เชื้อเข้าสู่บาดแผลในขณะการผ่าตัด แมลงกัด อาการขาบวมที่เป็นผลมาจากภาวะหัวใจล้มเหลว โรคเบาหวาน หรือปัญหาด้านสุขภาพอื่น ๆ การฉีดสารเสพติดอย่างเฮโรอีนเข้าสู่ร่างกาย

นอกจากนี้ บุคคลบางกลุ่มอาจมีความเสี่ยงจากการติดเชื้อแบคทีเรียชนิดนี้ได้ง่ายหรือมีอาการรุนแรงกว่าคนทั่วไป ได้แก่

    ผู้ที่มีระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอหรือภูมิคุ้มกันต่ำ โดยเฉพาะเด็กอายุ 2-6 ปี และผู้สูงอายุ (อายุมากกว่า 60 ปีขึ้นไป)
    ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบไหลเวียนโลหิต
    ผู้ที่ใช้ยาซึ่งมีฤทธิ์กดระบบภูมิต้านทานของร่างกาย เช่น ยารักษาโรคมะเร็ง ยาคอร์ติโคสเตียรอยด์ (Corticosteroids) รวมทั้งยาสำหรับผู้ที่ปลูกถ่ายอวัยวะ
    ผู้ที่มีโรคประจำตัวเรื้อรัง เช่น โรคเบาหวาน โรคหลอดเลือดแดงส่วนปลายตีบ (Peripheral Arterial Disease: PAD) โรคหลอดเลือดดําตีบและอักเสบ

การวินิจฉัยโรคไฟลามทุ่ง

โดยทั่วไปแพทย์จะวินิจฉัยโรคได้ทันทีจากการตรวจร่างกาย โดยเฉพาะอาการผิดปกติที่พบตามผิวหนัง เช่น ลักษณะผื่น อาการบวมแดง หรืออาการแสบร้อน ควบคู่กับประวัติทางการแพทย์และประวัติการบาดเจ็บ ซึ่งอาจทำให้ทราบสาเหตุการติดเชื้อ

เนื่องจากการติดเชื้ออาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ ในบางรายเมื่อแพทย์คาดว่าติดเชื้อโรคชนิดอื่น  อาจต้องตรวจเพิ่มเติม เช่น

    นำตัวอย่างของเหลวจากแผลหรือเชื้อโรคจากบริเวณผิวหนังไปตรวจวิเคราะห์ในห้องปฏิบัติการ
    การตรวจสารเคมีและองค์ประกอบในเลือด เช่น การนับจำนวนเม็ดเลือดขาว การตรวจหาระดับ C-Reactive Protein: CRP ซึ่งเป็นโปรตีนที่สร้างขึ้นเมื่อร่างกายเกิดการอักเสบ การเพาะเชื้อจากเลือด (Blood Culture)
    การเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ เช่น เอ็มอาร์ไอ (Magnetic Resonance Imaging: MRI) หรือซีที สแกน  (Computerized Tomography Scan: CT-Scan) ในกรณีที่การติดเชื้อมีความรุนแรงและกินลึกลงในชั้นผิวหนัง

การรักษาโรคไฟลามทุ่ง

โรคไฟลามทุ่งรักษาให้หายขาดได้ ส่วนใหญ่เป็นการรักษาแบบประคับประคองตามอาการผู้ป่วย โดยแพทย์จะพิจารณาจากความรุนแรงของโรค บางรายที่อาการไม่รุนแรงรักษาและบรรเทาอาการได้จากที่บ้าน ส่วนในผู้ป่วยที่อาการรุนแรงอาจต้องรับตัวไว้รักษาในโรงพยาบาล โดยรักษาด้วยการฉีดยาปฏิชีวนะและเฝ้าระวังภาวะแทรกซ้อน เช่น การติดเชื้อในกระแสเลือด การเกิดเนื้อตาย ซึ่งต้องรับการรักษาโดยการผ่าตัด

การรักษาตัวที่บ้าน

หากเป็นการรักษาตัวอยู่ที่บ้าน แพทย์มักแนะนำให้จำกัดการเคลื่อนไหวบริเวณที่เกิดการติดเชื้อ ดื่มน้ำมาก ๆ รับประทานยาแก้ปวด และพยายามลดอาการบวมในบริเวณที่เกิดการติดเชื้อ เช่น ผู้ป่วยที่เกิดการติดเชื้อที่ขาควรจำกัดการเดินให้น้อยลง อาจมีการลุกเดินเป็นครั้งคราว ในขณะที่นั่งหรือนอนควรยกขาให้สูงกว่าสะโพก ใช้ผ้ารัดขา เพื่อไม่ให้ขาบวมมากขึ้น เมื่อมีอาการปวดมากให้ประคบเย็นบริเวณที่เกิดอาการหรือรับประทานยาแก้ปวด ส่วนแผลเปิดควรล้างและทำแผลเป็นประจำ รวมไปถึงรักษาความสะอาดของแผล

การรักษาด้วยยา

เป็นการรักษาพื้นฐานโดยทั่วไป แพทย์จะจ่ายยาปฏิชีวนะ เช่น เพนิซิลลิน (Penicillin)ให้ผู้ป่วยที่มีอาการอยู่ในระดับปานกลาง ซึ่งระยะเวลาการใช้ยาจะอยู่ประมาณ 10-14 วันตามความรุนแรงของโรค ผู้ป่วยอาจรักษาตัวที่บ้านโดยรับประทานยาปฏิชีวนะร่วมกับการรักษาประคับประคองตามอาการ เช่น รับประทานยาแก้ปวดหรือยาลดไข้ เพื่อช่วยลดไข้และบรรเทาความรู้สึกไม่สบายตัว

หากการรักษาด้วยยาปฏิชีวนะไม่ได้ผลดี แพทย์อาจเปลี่ยนวิธีการให้ยาหรือเปลี่ยนชนิดของยาเป็นประเภทอื่น เช่น เปลี่ยนจากการรับประทานยาปฏิชีวนะเป็นการฉีดยาปฏิชีวนะเข้าทางหลอดเลือดดำ หรือใช้ยาต้านเชื้อราในผู้ที่มีสาเหตุของโรคมาจากโรคน้ำกัดเท้า ส่วนในรายที่มีอาการแพ้ยาเพนิซิลลิน แพทย์อาจใช้ยาอีริโธรมัยซิน (Erythromycin) ยาร็อกซิโทรมัยซิน (Roxithromycin) หรือยาปริสตินามัยซิน (Pristinamycin) ทดแทน

ในกรณีที่ผู้ป่วยมีอาการรุนแรงอาจจำเป็นต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล เพื่อรับยาปฏิชีวนะทางหลอดเลือด โดยเฉพาะเด็กและผู้สูงอายุ และแพทย์อาจให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำ หากผู้ป่วยดื่มน้ำหรือรับประทานอาหารได้น้อย

การผ่าตัด

เป็นวิธีการรักษาผู้ป่วยที่อาการแย่ลงอย่างรวดเร็วและตัวโรคทำให้เกิดเนื้อเยื่อตาย โดยแพทย์จะผ่าเอาเนื้อเยื่อที่ตายออกบางส่วน

ภาวะแทรกซ้อนของโรคไฟลามทุ่ง

โรคไฟลามทุ่งพบภาวะแทรกซ้อนได้น้อย แต่ผู้ป่วยที่ปล่อยให้มีอาการเรื้อรังอาจทำให้เกิดเนื้อตายเน่าบริเวณที่มีการติดเชื้อ การอักเสบเฉียบพลันของหลอดเลือดดำจนเกิดลิ่มเลือดและอุดตัน (Thrombophlebitis) ขาบวมเรื้อรัง หรือเชื้อกระจายเข้าสู่กระแสเลือด ทำให้โลหิตเป็นพิษ (Septicemia/Bacteremia) และก่อให้เกิดการติดเชื้อตามอวัยวะอื่น ๆ ตามมา เช่น ติดเชื้อในกระแสเลือด ภาวะติดเชื้อของเยื่อบุหัวใจ (Infective Endocarditis) ข้ออักเสบติดเชื้อ การติดเชื้อที่ถุงน้ำลดการเสียดสี (Bursa) เอ็นอักเสบ การอักเสบของกรวยกรองไต (Post-Streptococcal Glomerulonephritis) โรคหลอดเลือดดำสมองอุดตัน (Cavernous Sinus Thrombosis) หรือภาวะที่พบได้น้อยอย่างกลุ่มอาการ Streptococcal Toxic Shock Syndrome เมื่อเกิดการติดเชื้อในบริเวณใกล้เคียงกับสมอง

นอกจากนี้ ยังพบว่าผู้ป่วย 1 ใน 3 รายอาจกลับมาเป็นโรคนี้ได้ใหม่เมื่อมีปัจจัยกระตุ้นให้เกิดอยู่เป็นประจำหรือเกิดความผิดปกติกับท่อน้ำเหลือง ทำให้การระบายของเสียออกจากร่างกายไม่ดี   

การป้องกันโรคไฟลามทุ่ง

โรคไฟลามทุ่งยังไม่สามารถป้องกันได้เต็มประสิทธิภาพ แต่หลีกเลี่ยงโอกาสในการเกิดโรคได้ตามคำแนะนำ ดังนี้

    ผู้ที่เกิดบาดแผลตามร่างกายควรล้างแผลอย่างสม่ำเสมอและรักษาบาดแผลให้สะอาด
    ทาครีมบำรุงผิวเป็นประจำ เพื่อป้องกันผิวแห้งและแตก
    ไม่ควรเกาผิวหนังแรง ๆ รวมไปถึงขูดหรือแกะผิวหนังเมื่อเกิดแผล
    ผู้ที่มีโรคประจำตัวหรือโรคผิวหนัง เช่น โรคหลอดเลือดส่วนปลาย (Peripheral Artery Disease: PAD) โรคน้ำกัดเท้า ผิวหนังอักเสบ โรคเบาหวาน ควรรักษาโรคให้หายขาดหรือควบคุมโรคอย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนจากการติดเชื้อ
    เมื่อเกิดความผิดปกติหรือการติดเชื้อที่ผิวหนัง ควรไปพบแพทย์ เพื่อรักษาให้หายขาดและป้องกันเชื้อกระจายไปยังส่วนอื่นของร่างกายจนเกิดภาวะแทรกซ้อนตามมา

หน้า: [1] 2 3 ... 38